ประวัติ โอม หะริน จงเจริญรัตน์ ผู้ส่งต่อแรงบันดาลใจภายใต้ชื่อ Life Enricher

คุณ โอม หะริน จงเจริญรัตน์ CEO และผู้ก่อตั้งบริษัท LifeEnricher Group Co.,Ltd. บริษัทที่ฝึกอบรม และสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาชีวิตของผู้คน ด้วยประสบการณ์ด้านความสำเร็จทางธุรกิจ ทำให้มีเจ้าของกิจการ , CEO , ผู้บริหารระดับ Executive ดารานักแสดงทั้งในไทยและต่างประเทศ เลือกที่จะพัฒนาตัวเองกับคุณโอม ในบทความนี้เราจะพูดถึงเบื้องหลังความสำเร็จ และมุมมองการใช้ชีวิตของคุณโอม เรามาดูกันว่ากว่าจะเป็น “โอม หะริน จงเจริญรัตน์” ในวันนี้ เขาต้องผ่านอะไรบ้าง ?

คุณโอม หะริน จงเจริญรัตน์ เผยเงินล้านแรกได้มาตอนไหน ?

เส้นทางของเงินล้านแรกของคุณ โอม หะริน จงเจริญรัตน์ เริ่มต้นตอนอายุประมาณ 18-19 ปี ระหว่างทางเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย จากการทำงานหลากหลายรูปแบบ เช่น นายแบบโฆษณา , โมเดลลิ่งเอเจนซี่ , ธุรกิจเครือข่าย , นายหน้าอสังหา , เทรด , พากย์เสียง และอื่น ๆ 

ความคิดไหนเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้คิดว่าต้องสร้างรายได้ให้กับตัวเอง ?

คุณโอมเล่าว่าเดิมทีเป็นเด็กที่ชอบทำกิจกรรมอยู่แล้ว จนเข้ามหาลัยจึงเริ่มมีความคิดที่จะออกไปหาประสบการณ์จริงนอกห้องเรียน ในจุดนี้คุณโอมจำเป็นต้องเลือกระหว่างการเป็นรองประธานกิจกรรมใหญ่ของมหาลัยกับเลือกที่จะทำธุรกิจเครือข่าย แม้จะยังมีความลังเล แต่สุดท้ายแล้วคุณโอมก็เลือกที่จะสร้างรายได้ให้กับตัวเอง จึงเลือกที่จะทำงานควบคู่ไปกับการเรียน เพราะคุณโอมมองว่า “การเรียนรู้ที่แท้จริงมักจะอยู่นอกห้องเรียนเสมอ”

มัดรวมคำถามเกี่ยวกับอาชีพเสริมระหว่างเรียนของคุณโอม หะริน จงเจริญรัตน์

อย่างที่เรารู้กันดีว่าคุณโอมนั้นผ่านงานมาแล้วหลายรูปแบบ และทุกอาชีพที่คุณโอมทำ ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของเงินล้านก้อนแรกของคุณโอมด้วย เรามาดูกันว่าคุณโอมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับอาชีพที่ผ่าน ๆ มาของตัวเองอย่างไรบ้าง ?

• เคยมองอาชีพเสริมอื่น ๆ ที่คนส่วนใหญ่ทำกันบ้างไหม ทำไมถึงคิดต่างออกไป ? 

คุณโอมตอบคำถามนี้ได้อย่างน่าสนใจ คุณโอมบอกกับเราว่า การทำงานระหว่างเรียนด้วยอาชีพที่คนส่วนใหญ่ทำกันอย่างพนักงานเซเว่น ติวเตอร์ เด็กเสิร์ฟร้านอาหาร เป็นเพียงแค่อาชีพที่ให้แค่ประสบการณ์ แต่สิ่งที่คุณโอมเห็นจากคนที่ทำธุรกิจเครือข่ายคือ ประสบการณ์ Mind Set และวิธีคิดของผู้ประกอบการ

• ธุรกิจเครือข่ายในมุมมองของคุณโอมเป็นอย่างไร ?

ธุรกิจเครือข่ายเป็นอาชีพที่ต้องหน้าใหญ่ใจหนา และต้องพร้อมที่จะเผชิญกับคำปฏิเสธของคน คุณโอมมองว่างานเซลล์ไม่ใช่งานที่สะดวกสบาย แต่เป็นงานที่สร้างชาเลนจ์ให้กับตัวเอง เพื่อไม่ให้เรากลัวโลกภายนอก ที่กำลังตัดสินเราอยู่ และเป็นอาชีพที่มอบทักษะด้านต่าง ๆ ให้กับคุณโอมอีกมากมาย เช่น ทักษะการนำเสนอ ทักษะการโน้มน้าว และทักษะการสื่อสาร เป็นต้น

• เริ่มต้นอาชีพนายหน้าอสังหาได้อย่างไร ?

คุณโอมเริ่มต้นอาชีพนายหน้าอสังหาจากการโพสต์ปล่อยห้องเช่าให้คุณแม่ หลังจากนั้นก็เริ่มเป็นตัวแทนปล่อยเช่าปล่อยขายอสังหา ให้กับรุ่นพี่หลาย ๆ คนที่เคยทำธุรกิจเครือข่ายด้วยกัน และรับค่าคอมมิชชั่น 3% จากการขาย ทำให้ในช่วงอายุเพียงแค่ 18-19 คุณโอมสามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้มากถึงหลักแสน

• คิดว่าตัวเองได้เรียนรู้และได้ประสบการณ์จากอาชีพไหนมากที่สุด ?

อาชีพที่มอบประสบการณ์ให้กับคุณโอมได้มากที่สุดคือ “นักแสดงและนายแบบโฆษณา” ซึ่งคุณโอมเริ่มต้นงานนี้ด้วยเงินค่าตัวเพียงหลักพัน จนได้ร่วมงานกับแบรนด์ใหญ่ที่เสนอค่าตัวสูงถึงสามหมื่นบาท ทำให้ได้รับโอกาสร่วมงานกับอีกหลาย ๆ ประเทศ เช่น มาเลเซีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย 

“วิ่งตามหาความสุขและความสนุกจากการทำงาน” Mind Set การหาเงินล้านของคุณโอม หะริน จงเจริญรัตน์

คุณโอมมองว่าความคิดของตัวเองค่อนข้างฉีกจากคนอื่น ๆ เพราะตัวคุณโอมเอง ณ ตอนนั้น ไม่ได้สนใจเรื่องของเงินล้านเลย แค่ต้องการหางานที่ทำแล้วมีความสุข ได้โฟกัสกับความสนุก และได้รับการยอมรับจากสังคม ช่วงนั้นคุณโอมทำงานได้เงินมาเท่าไหร่ก็เก็บหมด จนอายุ 21 เปิดบัญชีดูอีกทีมีเงินเก็บอยู่ประมาณล้านสี่ ซึ่งคุณโอมมองว่าเงินล้านก้อนแรกนี้ได้มาจาก Passion ของตัวเองล้วน ๆ 

เงิน 1 ล้านก้อนแรกเปลี่ยนความคิด และเริ่มคิดให้เงินทำงาน

หลังจากได้เงิน 1 ล้านก้อนแรก คุณโอมตั้งคำถามกับตัวเองทันที ว่าเงินก้อนนี้จะเอาไปใช้ทำอะไรได้บ้าง และเริ่มคิดให้เงินทำงาน คุณโอมตัดสินใจนำเงินทั้งหมดไปลงทุนด้านอสังหา ซื้อคอนโดแถวพัทยาเพื่อปล่อยเช่าเดือนละ 6,500 บาท ให้กับชาวรัสเซีย เมื่อเริ่มมองเห็นความเป็นไปได้และรู้ว่าเงินมีความสำคัญ คุณโอมจึงเริ่มตั้งเป้าหมายเพื่อวันเกษียณ และนี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้คุณโอมโฟกัสเรื่องการหาเงินมากกว่าการหา Passion  

 คิดว่าสุดท้ายจะเลือกอาชีพอะไร ? แล้วอะไรที่ทำให้เป็น “โอม หะริน จงเจริญรัตน์” ในทุกวันนี้

คุณโอมใช้เวลาค้นหาตัวเองอย่างหนักในช่วงอายุ 23-24 ปี เพื่อให้ตัวเองประสบความสำเร็จให้เร็วที่สุด แต่ระหว่างทางคุณโอมกลับพบว่าคนที่ประสบความสำเร็จ แต่ยังไม่มีความสุข ก็ยังมีอีกเยอะ เมื่อมองเห็นความจริงมากขึ้น ความคิดที่อยากจะประสบความสำเร็จให้เร็วที่สุดก็เริ่มเปลี่ยนไป 

คุณโอมเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองอีกครั้งในวัย 24 ว่าสิ่งที่ตัวเองต้องการจริง ๆ คืออะไรกันแน่ จนได้พบกับศาสตร์ที่เรียกว่า “จิตวิทยาสื่อประสาท” ที่คุณโอมตัดสินใจเรียนรู้ เพื่อให้เข้าใจความต้องการของตัวเองมากขึ้น และสุดท้ายคุณโอมก็ได้ค้นพบว่า นี่คือสิ่งที่ตัวเองตามหามาตลอด 

ทำไมถึงคิดว่ามีเงินแล้วไม่มีความสุข ?

คุณโอมมองว่า ความสุขกับความสำเร็จมันวิ่งกันคนละเส้น ไม่ใช่ว่าเงินไม่สำคัญ ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วไม่มีความสุข แต่เงินเติมเต็มความสุขให้ชีวิตได้แค่ด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น ในชีวิตจริงยังมีองค์ประกอบอีกมากมาย ที่ทำให้คนเรามีความสุข เช่น ความสัมพันธ์ สุขภาพ จิตวิญญาณ จิตใจ การพัฒนาตัวเอง การเข้าใจสุขภาพจิตของตัวเอง และการอยู่กับสังคม เพราะฉะนั้นเราต้อง “ปลดล็อกชีวิตตัวเองให้ได้ทุกมิติ ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน”

คำแนะนำจากคุณโอม หะริน จงเจริญรัตน์ ถึงคนที่อยากมี 1 ล้านแรก 

อย่างแรกเลยคือ อย่าโฟกัสเงิน ให้โฟกัสคุณค่าของตัวเอง เพราะถ้าคุณเลือกที่จะโฟกัสเงินเป็นหลัก คุณจะเครียด และต้องคอยวิ่งตามกรอบอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าคุณกลับมาโฟกัสที่คุณค่าของตัวเอง และทำมูลค่าของตัวเองให้เพิ่มมากขึ้น เงินทั้งหมดจะวิ่งหาคุณเอง สุดท้ายนี้คุณโอมทิ้งท้ายไว้ด้วยคำคมดี ๆ ที่ว่า “หาทักษะที่สร้างรายได้ตอบแทนสูงสุด” เมื่อหาทักษะของตัวเองเจอแล้ว ก็ต้องรู้จักวิธีการบริหารเงิน เลือกใช้ในสิ่งที่จำเป็น อดเปรี้ยวไว้กินหวานให้เป็น 

บทส่งท้าย

ทั้งหมดนี้คือเบื้องหลังความสำเร็จของคุณโอม หะริน จงเจริญรัตน์ ที่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน กว่าจะมาเป็นคุณโอมอย่างในวันนี้ได้ ต้องผ่านการตกผลึกมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ผ่านบททดสอบมามากมาย สำหรับใครที่อยากฟังบทสัมภาษณ์เต็ม ๆ ของคุณโอม สามารถรับชมได้ที่ยูทูบช่อง NopPongsatorn และติดตามเนื้อหาดี ๆ ด้านธุรกิจเพิ่มเติมกับเราได้ที่ THE INSIDER