Shinkanzen Sushi โตได้อย่างไร? กลยุทธ์จากร้านเล็กสู่พันล้าน

0
Shinkanzen Sushi Japanese restaurant business Restaurant expansion tips Business location strategy Business location strategy ร้านอาหารญี่ปุ่น กลยุทธ์การทำธุรกิจ Shinkanzen Sushi โตอย่างไร ขยายสาขาร้านอาหาร การเลือกทำเลร้านค้า


การทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหาร ที่ในปัจจุบันมีการแข่งขันที่ดุเดือดมาก การที่จะมีแบรนด์ที่สามารถยืนหยัดในตลาดได้อย่างยาวนานจึงเป็นเรื่องยาก หลายคนจึงเกิดคำถามว่า การที่บางแบรนด์สามารถยืนหยัดมาได้อย่างยาวนาน เขาเริ่มต้นจากการหาคอนเซ็ปต์ที่ใช่ก่อน หรือเขาลงมือทำแล้วค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการของตลาดไปเรื่อย ๆ ซึ่งคำตอบนี้ ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และเป้าหมายที่ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจแต่ละคนมี และสามารถประยุกต์ใช้ทั้งสองแบบได้ตามความเหมาะสม 


ซึ่งหนึ่งในแบรนด์ที่สามารถใช้ทั้งคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจนในตอนแรกและปรับตัวตามความต้องการของตลาดในเวลาต่อมา นั่นคือแบรนด์ “Shinkanzen Sushi” ที่มีจุดเริ่มต้นจากความตั้งใจของคุณชาร์ป-ชนวีร์ หอมเตย ที่ตั้งใจอยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง ตั้งแต่เรียนอยู่ปี 3 จึงเริ่มต้นด้วยการสำรวจตลาดรอบ ๆ มหาวิทยาลัยว่าร้านอาหารประเภทใดมีน้อย ซึ่งพบว่า ร้านซูชิและอาหารญี่ปุ่นมีอยู่น้อยมาก จึงตัดสินใจว่าจะเปิดร้านซูชิ แต่ไม่มีประสบการณ์ในการทำซูชิ จึงตัดสินใจไปเรียน แล้วจึงเริ่มเปิดร้าน โดยขายอยู่ในตลาดนัดแถวมหาวิทยาลัย จนสามารถปรับสูตรที่ลงตัว จึงตัดสินใจเปิดร้านสาขาแรก


เมื่อ Shinkanzen Sushi เริ่มได้รับความนิยมจากลูกค้ากลุ่มนักศึกษา จึงเริ่มขยายสาขาไปตามมหาลัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นต้น จนสามารถสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และจุดเปลี่ยนแรกของแบรนด์ คือการเข้าไปขายอยู่ใน “ยูเนี่ยนมอลล์” ซึ่งทำให้พบกับกลุ่มลูกค้าใหม่ คือ ลูกค้าวัยทำงาน ที่มาใช้บริการศูนย์การค้า ทำให้มองเห็นแนวทางใหม่ในการขยายสาขาในอนาคต สาขาที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญและสร้างการเติบโตของแบรนด์ คือ สาขา “สยามสแควร์” 


การเลือกทำเลของร้านเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามทำธุรกิจ ร้านที่ตั้งอยู่ในทำเลที่มีการเดินสะดวกและมีลูกค้าหลากหลายกลุ่มจะช่วยส่งเสริมความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว ในกรณีของ Shinkanzen การขยายสาขาไปที่สยามสแควร์ถือเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่า แม้ว่าค่าเช่าที่และค่าก่อสร้างสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่หลังจากเปิดร้าน นอกจากจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สาขานี้ก็ทำยอดขายสูงที่สุดในทุกสาขาที่เปิดมา


แม้ว่า Shinkanzen จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่ก็มีลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นต้องแตกแบรนด์ออกมาเป็น “Shinkanzen Sushi Go” เพื่อแก้ pain point ของลูกค้า โดยลูกค้าสามารถหยิบอาหารได้เองโดยไม่ต้องรอ นอกจากนั้นยังสามารถซื้ออาหารกลับบ้านได้ทันที ทำให้การรับการตอบรับจากลูกค้ากลุ่มนี้เป็นอย่างดีเช่นกัน


แต่ไม่เพียงเท่านั้น ยังสร้างแบรนด์ใหม่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการอื่น ๆ ของลูกค้า ตามกระแสและเทรนด์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น เช่น การเปิดแบรนด์ที่สามารถตอบสนองความต้องการ ของกลุ่มลูกค้าที่อยากกินหมูกระทะ แต่ต้องการกินในที่บรรยากาศที่สบาย ๆ และสามารถหลังจากรับประทานแล้วสามารถกลับไปทำงานได้โดยไม่มีกลิ่นติดตัว จึงเป็นที่มาของแบรนด์ “นักล่าหมูกระทะ”


นอกจากการขยายสาขา สิ่งที่ทำให้ Shinkanzen สามารถเติบโตและขยายสาขาไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี คือการมีพันธมิตรที่ดีอย่าง CRG หรือ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จํากัด ที่เป็นส่วนสำคัญในการหาโลเคชันที่ดี โดยเฉพาะพื้นที่ในศูนย์การค้า ที่ได้ตำแหน่งร้านที่คนเดินผ่านไปผ่านมาอย่างมากมาย ยิ่งไปกว่านั้น CRG ช่วยเปิดประตูในการติดต่อเพื่อนำแบรนด์ Katsu Midori (ซูชิสายพาน)  เข้ามาเปิดในประเทศไทยได้สำเร็จ ซึ่งปัจจุบัน CRG ได้เข้ามาถือหุ้นของบริษัท เดอะ ฟู้ด ซีเล็คชั่น กรุ๊ป จำกัด ในสัดส่วน 51% 


ด้วยความหลากหลายของแบรนด์และได้พันธมิตรที่ดี ส่งผลให้ในปี พ.ศ. 2567 บริษัท เดอะ ฟู้ด ซีเล็คชั่น กรุ๊ป จำกัด สร้างยอดขายได้มากถึง 2,100 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนมาจาก Shinkanzen 75%, นักล่าหมูกระทะ 17%,NAMA 5.5%, Katsu Midori 1% และอื่น ๆ อีก 1.5% 


และอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจร้านอาหารของ Shinkanzen ประสบความสำเร็จ คือการใส่ใจใน “สินค้าและบริการ” ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการดึงดูดลูกค้าให้กลับมาใช้บริการซ้ำ นอกจากนั้นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในปัจจุบันคือ “ความคุ้มค่า” เพราะลูกค้าไม่ได้มองแค่อาหารอร่อย แต่การให้บริการรวดเร็วและมีคุณภาพ ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ลูกค้ากลับมาที่ร้านอีกครั้ง


บทเรียนความสำเร็จของ Shinkanzen คือการไม่คาดหวังผลสำเร็จในทันที แต่เป็นการปรับตัวตามสถานการณ์และความเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา นอกจากนั้นการเข้าใจลูกค้าและพร้อมที่จะปรับปรุงตามความต้องการของตลาด คือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์สามารถยืนหยัดอยู่ในตลาดร้านอาหารได้อย่างยืนยาว


สุดท้าย การสร้างแบรนด์ที่ใช่ตั้งแต่วันแรกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นการเดินทางที่ต้องใช้ความมุ่งมั่นและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพราะในโลกของธุรกิจ เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน การเข้าใจลูกค้าและปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของตลาด ช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน

เรียบเรียงโดย: THE INSIDER 
Source
– The Entrepreneur Forum 2025

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *