“ฟรัง นรีกุล” เปลี่ยนความชอบ สร้างธุรกิจให้เกิดขึ้นจริง
หลาย ๆ คนคงมีภาพจำสำหรับอาชีพ “หมอ” ว่าเป็นอาชีพหนึ่งที่ทำงานหนักมาก ถึงมากที่สุด นอกจากเวลาที่ทำงานในโรงพยาบาล ในช่วงเวลาอื่น ไม่ว่าจะเป็นช่วงเช้า หรือช่วงเย็นหลังเลิกงาน เราก็จะเห็นหมอหลาย ๆ ท่าน มาทำหน้าที่หมอ เพื่อรักษาคนไข้อยู่คลินิก
แต่สำหรับเธอคนนี้ กลับแตกต่าง แม้ว่าเธอจะเรียนจบหมอจากมหาลัยชั้นนำของประเทศไทย แต่น้อยคนที่จะมีภาพจำของเธอในบทบาทของคำว่าหมอ และเธอเองก็เลือกเดินเส้นทางที่แตกต่างจากหมอทั่ว ๆ ไป ที่อาจจะมีธุรกิจส่วนตัวด้วยการเปิดคลินิก แต่เธอเลือกที่จะทำธุรกิจอื่นตาม Passion ของตัวเอง
หากเอ่ยชื่อเธอ น้อยคนที่จะไม่รู้จักเธอคนนี้ นั่นคือ คุณหมอฟรัง-นรีกุล เกตุประภากร จากบทบาทของนักแสดง สู่นักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง เพียงแค่ 1 ปี เปิดตัวธุรกิจไปแล้ว 3 ธุรกิจ แต่หากย้อนกลับไปในช่วงเรียนมหาลัย ก็อาจจะมีทุกธุรกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ กับเพื่อน ๆ แต่ไม่ได้จริงจัง
ธุรกิจ ที่เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจแรกของคุณฟรัง คือ “Ellis” เป็นร้านสูทสำหรับผู้หญิง แต่จุดเริ่มก่อนจะทำสูท คุณฟรัง อยากทำชุดสครับ ซึ่งเป็นชุดที่คุณหมอใส่ขณะเข้าเวร แต่หาผ้าที่ถูกใจไม่ได้ จึงล้มเลิกไป และสังเกตเห็นว่า เวลาหมอไปประชุมหรือไปงานที่เป็นทางการก็ต้องใส่สูท
แต่พบว่า ร้านสูทส่วนใหญ่ จะเป็นร้านสูทสำหรับผู้ชายมากกว่า แม้ว่าจะสามารถตัดสูทผู้หญิงด้วยได้ จึงมีความคิดว่า แล้วทำไมไม่มีร้านสูทที่เป็นร้านสำหรับผู้หญิง คุณฟรังจึงตัดสินใจทำร้านสูทสำหรับผู้หญิงขึ้นมา โดยใช้เงินลงทุนที่เก็บสะสมมาจากการเป็นนักแสดง
[คำถามชวนคิด] หากคุณไม่มีความรู้ในการทำธุรกิจ แต่คุณต้องการทำธุรกิจ คุณจะตัดสินใจเริ่มอย่างไร?
ก่อนจะตัดสินใจทำแบรนด์ ก็มีความคิดที่อยากจะไปเรียนเพื่อหาความรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจ แต่สุดท้ายตัดสินใจว่า ถ้าจะเสียค่าเรียน ก็เอาเงินส่วนนั้นมาลองทำธุรกิจดีกว่า แม้จะเสี่ยงหรือไม่สำเร็จ อย่างน้อยก็ได้ทั้งบทเรียนและประสบการณ์
สิ่งสำคัญสำหรับการทำธุรกิจ คือ “ลูกค้าคนแรก” ที่ไม่ใช่คนในครอบครัวและเพื่อน ๆ สำหรับคุณฟรัง ด้วยความโชคดีที่มีเพื่อนอยู่ในวงการบันเทิง ทำให้เพื่อนช่วยโปรโมทผ่านสื่อออนไลน์ ทำให้ลูกค้ากลุ่มแรก ๆ มาจากเพื่อนของเพื่อน
หลังจากเปิดตัวแบรนด์แรกได้ 6 เดือน ก็เริ่มทำธุรกิจที่ 2 แม้ผู้ก่อตั้งจะเป็นเพื่อนของคุณฟรัง แต่ด้วยความชอบสินค้าของแบรนด์ และเพื่อนต้องการ Partner เพิ่ม จึงตัดสินใจเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ โดยมองว่า สามารถสร้างมูลค่าให้กับแบรนด์ได้มากขึ้น นั่นก็คือ “Moood Fresh Bar” ร้านเครื่องดื่มผลไม้เพื่อสุขภาพ
เนื่องจากเป็นแบรนด์เกิดใหม่ และคนยังไม่ค่อยรู้จัก คุณฟรังจึงตัดสินใจ นำแบรนด์ไปขอเป็นสปอนเซอร์หรือไป Collab กับแบรนด์อื่น ๆ ที่เป็นที่รู้จักมากกว่า ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดีขึ้น และคนรู้จักมากขึ้น แต่สิ่งที่ได้มากกว่านั้น คือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับแบรนด์อื่น ๆ
และธุรกิจที่ 3 ที่เปิดตัวในช่วงปลายที่ 2024 ที่ผ่านมา คือ “ONE SkinLabs” เป็นแบรนด์ที่ทำเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ซึ่งจุดเริ่มต้นก่อนที่จะมาเป็นแบรนด์นี้ เกิดจากมีรุ่นพี่ที่คุณฟรังรู้จัก มาชวนคุณฟรังทำโรงพยาบาล แต่คุณฟรังมองว่า มันใหญ่เกินกว่าที่จะจัดการได้
จึงปรึกษากันว่า เริ่มทำจากสิ่งเล็ก ๆ ก่อน จึงเป็นที่มาของการทำผลิตภัณฑ์บำรุงผิว แม้จะเป็นแบรนด์ที่ใกล้กับสิ่งที่คุณฟรังเป็นมากที่สุด แต่กลับทำให้เกิดความกังวลมากที่สุด เพราะคิดว่า หลาย ๆ คนคงจะคาดหวังว่าเมื่อคุณหมอมาทำสิ่งนี้ ต้องเป็นสินค้าที่ดี และคิดว่าสิ่งนี้มีช่องว่างให้ผิดพลาดน้อยมาก แต่ในท้ายที่สุด ที่ตัดสินใจมาทำแบรนด์นี้ เพราะคิดว่าถ้าไม่ลงมือทำ สิ่งที่คิดและความกังวล ก็ไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นอย่างไร และมองว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ
จากทั้ง 3 ธุรกิจ แม้จะมองว่า คุณฟรัง ได้รับโอกาสดี ๆ แต่สำหรับคุณฟรังมองว่า การที่โอกาสดี ๆ จะเข้ามาหาเรา เราต้องเริ่มจากทำตัวเองให้ดีก่อน ถ้าเราตั้งใจทำสิ่งใดได้ดีมากพอ จะมีคนคอยยื่นโอกาสดี ๆ มาให้เราเสมอ เพราะหากมองในมุมกลับ ถ้าตัวเราต้องมอบโอกาสดี ๆ ให้กับใคร ก็อยากมอบให้คนที่เขาทำตัวเขาให้ดีเช่นกัน
แม้ในวันนี้ ทั้ง 3 ธุรกิจ ยังไม่สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ แต่มีความสุขที่ได้ทำในทุก ๆ วัน และขอมีความสุขแบบนี้ ดีกว่าจะไปรอความสุขในวันที่ถึงปลายทาง ซึ่งมันคาดเดาสิ่งใดไม่ได้เลย ดังนั้นจงทำให้ความสุขของการเดินทางเป็นเสมือนปลายทาง ดั่งคำกล่าวที่ว่า “The journey is the destination”
[Key Takeaways]
1. โอกาสดี ๆ ไม่ได้มาเอง แต่เกิดจากการพัฒนาตัวเองให้พร้อมรับโอกาส
2. การเรียนรู้จากการลงมือทำสำคัญกว่าการเรียนจากทฤษฎี
3. ความสุขไม่ได้อยู่แค่จุดหมายปลายทาง แต่อยู่ในทุกวันของการเดินทาง
เรียบเรียงโดย: THE INSIDER
