วิธีต่อยอดธุรกิจให้เติบโตแบบคุณตัน ภาสกรนที

ในโลกของการทำธุรกิจ ไม่มีความแน่นอน เพราะทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แต่สิ่งสำคัญที่นักธุรกิจและผู้ประกอบการต้องมี คือการมีวิธีคิดที่ทำให้เราไม่หยุดนิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ซึ่งคนที่พิสูจน์ให้เห็นว่า การต่อยอดธุรกิจนั้นสามารถทำได้เสมอ ตราบใดที่เรามองเห็นโอกาสและสามารถปรับตัวตามสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ นั่นก็คือ คุณตัน ภาสกรนที ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการของอิชิตัน กรุ๊ป 

หากพูดถึงการทำธุรกิจแบบไม่มีทางตัน คุณตันเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นในวงการธุรกิจของไทย ซึ่งได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “การต่อยอด” เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีคำว่า “ทางตัน” หากสามารถมองเห็นโอกาสและนำไปปรับใช้ได้อย่างชาญฉลาด ซึ่งในตอนเริ่มต้น คุณตันก็เริ่มจากการต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่ จากร้านหนังสือ สู่ร้านกาแฟ เบเกอรี่ ร้านอาหาร ร้านบุฟเฟต์ ร้านถ่ายรูป จนกลายมาเป็นอาณาจักรอิชิตันในปัจจุบัน

คุณตันมองว่า การต่อยอดไม่ได้หมายความว่าต้องเริ่มจากสิ่งใหม่เสมอไป แต่ต่อยอดจากสิ่งที่เรามีอยู่แล้วก็ได้ การเริ่มต้นจากธุรกิจร้านหนังสือเล็ก ๆ ที่คุณตันเคยทำในอดีต ก็ต่อยอดลูกค้าไปสู่ร้านกาแฟและเบเกอรี่ โดยการเชื่อมโยงลูกค้าจากการสะสมยอดซื้อและคูปองส่วนลด ทำให้ต่อยอดลูกค้าจากธุรกิจหนึ่งไปสู่อีกธุรกิจหนึ่งที่เป็นของเราได้

และการต่อยอดไม่ได้เกี่ยวกับการขยายธุรกิจไปเรื่อย ๆ เท่านั้น แต่ยังต้องรู้จักการใช้จังหวะและมองเห็นโอกาสในตลาด เช่น ธุรกิจชาเขียวของคุณตัน เริ่มจากการสังเกตถึงความต้องการของลูกค้าในร้านบุฟเฟต์โออิชิในขณะนั้น ที่อยากได้ชาเขียวกลับไปดื่มที่บ้าน จึงเป็นที่มาของการนำชาเขียวมาขายให้ลูกค้า จากใส่ถุง สู่การใส่ขวด ไปจนถึงการจ้างผลิต จนกลายมาเป็นอิชิตันแบบทุกวันนี้ เมื่อเรามองเห็นโอกาสและสามารถสร้างความแตกต่าง ก็จะทำให้ธุรกิจของเราเติบโตได้อย่างรวดเร็วในตลาดที่มีคนแข่งขันจำนวนน้อย

นอกจากการต่อยอดจากสิ่งที่มี คุณตันแนะนำว่า ควรเลือกธุรกิจที่ตรงกับความชอบและความถนัดของตัวเอง เช่น หากเรามีความรู้ในบางอุตสาหกรรมและรู้จักตลาดดี การต่อยอดจากสิ่งที่มีอยู่แล้วอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แทนที่จะตามกระแสไปทำธุรกิจที่คู่แข่งมากมาย เพราะการทำธุรกิจที่เรารู้จักและถนัด จะช่วยให้เรามีข้อได้เปรียบในการแข่งขันและมีโอกาสประสบความสำเร็จ

คุณตันเน้นว่า การสังเกตโอกาสในตลาดก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เช่น ในกรณีของการลงทุนในตลาดชาเขียว แม้ในตอนแรกจะไม่เห็นการเติบโตในไทย แต่ด้วยการสังเกตจากตลาดต่างประเทศ คุณตันมองเห็นถึงความต้องการในระยะยาว จึงสามารถคว้าโอกาสได้ในที่สุด แต่ไม่ใช่เพียงแค่การสังเกตเท่านั้น แต่ยังกล้าที่จะลงมือทำในวันที่ไม่มีสิ่งใดมาการันตี

ซึ่งความสำเร็จก็ไม่ได้มาโดยง่าย แม้คุณตันจะมีหลากหลายธุรกิจที่เคยทำ บางธุรกิจก็ต้องปิดตัวไปในที่สุด แต่สิ่งที่คุณตันได้เรียนรู้จากการลงมือทำและการต่อยอดคือ “ความรู้และประสบการณ์” ที่ได้จากการทำธุรกิจ แม้บางครั้งการเริ่มทำ จะยังไม่ได้กำไรในช่วงเริ่มต้น แต่ความรู้ที่ได้ จะกลายเป็นทุนสำคัญที่ช่วยให้คุณตันต่อยอดในธุรกิจอื่น ๆ ได้สำเร็จ โดยคุณตันเชื่อว่า “ความรู้คือเงินในอนาคต” และประสบการณ์จากสิ่งต่าง ๆ เป็นการสร้างมูลค่าในระยะยาว

การทำธุรกิจ จึงไม่ใช่แค่เรื่องของเงินลงทุนเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของการเลือกทางเลือกที่ถูกต้องและมองภาพรวมให้ออก คุณตันเชื่อว่า การเลือกทำสิ่งที่ถนัดและมีความรู้ จะทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้ในตลาด แม้จะมีช่วงเวลาที่ตลาดตกต่ำลงหรือเผชิญกับวิกฤตก็ตาม เช่นเดียวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้หลายธุรกิจหยุดชะงัก แต่ถ้าเราสามารถรอได้จนถึงช่วงตลาดฟื้นตัว เราก็จะกลับมามีส่วนแบ่งมากขึ้นจากธุรกิจที่ปิดตัวไป

ในขณะเดียวกัน การทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน ต้องมีการปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว รวมถึงกระแสใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ซึ่งคุณตันแนะนำว่า การทำธุรกิจในสมัยนี้ ต้องมีการพัฒนาตัวเองและปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีหรือการรับมือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค

สุดท้าย คุณตันฝากข้อคิดสำคัญไว้ว่า “การต่อยอดไม่จำเป็นต้องเริ่มจากเงิน” แต่สามารถต่อยอดจากสิ่งที่เรามี ไม่ว่าจะเป็นความรู้ ประสบการณ์ เพื่อน คนรู้จัก คนรอบข้าง สิ่งสำคัญอยู่ที่ หรือแม้กระทั่งสิ่งที่คนอื่นกำลังทำอยู่ เพียงแค่ต้องเป็นคนที่ “ช่างสังเกต” และสามารถมองเห็นโอกาสรอบตัว เพราะเมื่อเรามีความคิดที่เปิดกว้างและไม่หยุดพัฒนา “ธุรกิจของเราจะไม่มีทางตัน” แน่นอน

เรียบเรียงโดย: THE INSIDER 
Source
– The Entrepreneur Forum 2025