Coca-Cola จากยาแก้ปวดชนิดน้ำ สู่แบรนด์เครื่องดื่มระดับโลก!

0

Coca-Cola จากยาแก้ปวดชนิดน้ำ สู่แบรนด์เครื่องดื่มระดับโลก!

Coca-Cola

Coca-Cola

เมื่อพูดถึงชื่อ “Coke’ หรือ “Coca-Cola
คงจะไม่มีใครไม่รู้จักเครื่องดื่มสุดฮิตตัวนี้
แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าโค้กเครื่องดื่ม
ดับกระหายที่เราดื่มกันเป็นปกตินี้
มีจุดเริ่มต้นจากการ
เป็นยาแก้อาการติดมอร์ฟีนมาก่อน 

จุดเริ่มต้นของ Coca-Cola

ในปี 1886 ทหารผ่านศึกคนหนึ่งชื่อว่า
“John S. Pemberton”
เขาสามารถรอดชีวิตจากสงครามมาได้
แต่ต้องใช้มอร์ฟีนในการระงับปวดอยู่ตลอด
จึงได้คิดค้นเครื่องดื่มตัวหนึ่งที่มีฤทธิ์แก้ปวด
และช่วยลดอาการติดมอร์ฟีนได้ 
โดยใช้สมุนไพรตัวหนึ่งชื่อ “โคคา (Coca)” 
ซึ่งเป็นสมุนไพรตัวเดียวกับที่ใช้ทำโคเคน
เป็นวัตถุดิบหลัก 
สมัยนั้นโคเคนยังไม่ผิดกฎหมาย
จึงได้ผลิตเครื่องดื่มสูตรแรก
ชื่อ “French Wine Coca” ขึ้นมา
ด้วยความที่มีฤทธิ์เหมือนโคเคนอ่อน ๆ 
จึงสามารถแก้ปวด
และลดอาการติดมอร์ฟีนได้
ต่อมา Pemberton พบว่าเครื่องดื่มสูตรนี้
จำกัดกลุ่มลูกค้ามากเกินไป
จึงปรับสูตรใหม่แบบไม่ใส่แอลกอฮอลล์
และเพิ่มน้ำตาลลงไป
เพื่อให้ขายได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
แต่ยังคงวัตถุดิบหลักคือสมุนไพรโคคาไว้ 
ในช่วงแรกของการปรับสูตรนี้
Coca-Cola ยังขายไม่ดีสักเท่าไหร่
และหลังจากนั้นไม่นาน
Pemberton ก็ได้เสียชีวิตลง
น่าเสียดายที่ Pemberton
อยู่ไม่ถึงวันที่ได้รู้ว่าธุรกิจที่เขาเป็นผู้ริเริ่ม
กลายเป็นธุรกิจเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่
มูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
อย่างทุกวันนี้

การขาย Coca-Cola ครั้งแรกของ Pemberton

ก่อนที่ Pemberton
ผู้ก่อตั้ง Coca-Cola จะเสียชีวิตไม่นาน
เขาได้ขายสูตรน้ำหวาน Coca-Cola
ของเขาให้กับ “Asa G. Candler” 
เจ้าของธุรกิจร้านขายยาแห่งหนึ่ง
และนั่นคือจุดเริ่มต้น
ของแบรนด์ที่ผู้คนทั่วโลกชื่นชอบ
ในปี 1891 Candler
ได้ก่อตั้งบริษัท Coca-Cola ขึ้นมา
และสิ่งที่เขาทำ คือ
ทำให้ทุกคนรู้จัก Coca-Cola ให้ได้
โดยการใส่ โลโก้ของ Coca-Cola ลงบนทุกสิ่ง
จัดโปรโมชั่นดื่มฟรี หรือแม้แต่เขียนจดหมาย
หาเจ้าของร้านขายเครื่องดื่มอื่น ๆ
และให้คูปองดื่มฟรีแก่ลูกค้าประจำ
ของร้านเครื่องดื่มนั้น
ซึ่งนั่นทำให้เกิดความประทับใจ
Coca-Cola ถูกพูดถึงและบอกต่ออย่างรวดเร็ว

จุดหักเหของ Coca-Cola เมื่อโคเคนถูกแบน

แต่แล้ว Coca-Cola ก็ต้องเจอกับปัญหาใหญ่
โคเคน ถูกแบน เพราะถูกจัดว่าเป็นสารเสพติด
ภาครัฐก็ยื่นคำขาดว่าจะมีส่วนผสมของโคเคน
อยู่ในเครื่องดื่มไม่ได้เด็ดขาด
Candler และ Coca-Cola
เลยต้องทำการบ้านครั้งใหญ่
พวกเขาต้องการคงส่วนผสมของโคคาไว้
เพราะชื่อของมันอยู่บน
เครื่องหมายการค้าของพวกเขา
การปรับเปลี่ยนสูตรครั้งสำคัญนี้
ทำให้โคคาใน Coca-Cola
ไม่ออกฤทธิ์เหมือนโคเคน
และสูตรสำเร็จนี้ก็ถูกใช้มาถึงปัจจุบัน

จากเงิน 1 ดอลลาร์ สู่การขยายโรงงานบรรจุขวดทั่วสหรัฐฯ

อีกหนึ่งจุดเปลี่ยนของ Coca-Cola
คือตอนที่ Candler
ขายสิทธิ์การขาย Coca-Cola แบบบรรจุขวด
ให้กับ Joseph Whitehead
และ Benjamin Thomas ในปี 1899 
ในราคาเพียง 1 ดอลลาร์
เพราะคิดว่าตลาดเครื่องดื่มบรรจุขวดตอนนั้น
ยังยากต่อการบริหารจัดการ
ทั้งยังไม่มีเทคโนโลยีที่ดีพอในการบรรจุ

แต่ผิดคาด ในเวลาไม่นานก็มีคนคิดค้นฝาจีบ
เทคโนโลยีใหม่ในการบรรจุเครื่องดื่มขึ้น
นั่นทำให้ใน ปี 1910
โรงงานบรรจุขวดของ Coca-Cola
ได้เกิดขึ้นทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา
และทำให้ Coca-Cola เติบโตอย่างรวดเร็ว 
แต่นั่นก็ตามมาด้วยการ
ถูกลอกเลียนแบบของคู่แข่ง
จนลูกค้าแยกไม่ออกว่าแบบไหน
คือ Coca-Cola ของแท้
และนั่นทำให้ใน ปี 1915 Coca-Cola
ได้ออกแบบขวดรูปทรงใหม่
ที่มีส่วนโค้งเว้า มีลายแนวตั้งข้างขวด
เป็นเอกลักษณ์ 
และได้พัฒนาบรรจุภัณฑ์มาเรื่อย ๆ
ตามยุคสมัยจนถึงปัจจุบัน

ทีมงาน THE INSIDER

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *