SmartHome: แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยที่กำลังมาแรง

สิ่งหนึ่งที่ทุกบ้านต้องมี คือ เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะในปัจจุบันที่เครื่องใช้ไฟฟ้าแทบจะเป็นส่วนประกอบของทุกส่วนในบ้าน แต่หากพูดถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า แบรนด์ที่จะโผล่มาในหัวของหลาย ๆ คน คงไม่พ้นแบรนด์ดัง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Sharp, Panasonic, LG, Mitsubishi, Samsung และแบรนด์อื่น ๆ อีกมากมาย แต่ทั้งหมดที่กล่าวมา ล้วนเป็นแบรนด์สินค้าจากต่างประเทศ

แต่ในปัจจุบัน หากคุณไปเดินเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า คุณจะพบว่ามีแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอีกหนึ่งแบรนด์ มาวางจำหน่ายเพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับทุกคนและเป็นที่สะดุดตาด้วยภาพจำในสีของแบรนด์ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ และยิ่งไปกว่านั้น เชื่อว่าแบรนด์นี้กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกของใครหลาย ๆ คน ในการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า

ก่อนจะมาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์นี้ ย้อนกลับไปในวัยเด็ก เขาเติบโตในครอบครัวที่ทำค้าขาย ในอำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยความมุ่งมั่นที่อยากเป็นนักธุรกิจ จึงตัดสินใจเรียนคณะบริหารธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยพายัพ ซึ่งเขาก็เริ่มต้นค้าขายแบบเล็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการขายปลาหางนกยูง ขยายไปสู่การเพาะพันธุ์สุนัข ซึ่งสามารถทำยอดขายได้ถึงหลักแสนบาท 

หลังเรียนจบ เริ่มต้นทำงานที่บริษัท นิยมพานิช จำกัด ตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าครบวงจร ในฝ่ายจัดซื้อ ทำให้ได้เรียนรู้เรื่องของการวางแผนการกำหนดโครงสร้างราคา (Price Structure) ซึ่งอยู่ที่นั่นได้ 2 ปี จากนั้นย้ายไปทำงานอยู่บริษัท โอชอง (Auchan) ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติฝรั่งเศส โดยทำงานอยู่ที่นั่น 7 ปี จึงตัดสินใจลาออก 

โดยหลังจากลาออก ได้ชวนเพื่อนมาทำธุรกิจ แม้จะมีเงินทุนน้อย แต่ด้วยเครดิตที่มีจากการทำงานในฝ่ายจัดซื้อมา ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจไปได้ ซึ่งสิ่งที่เขาทำคือการซื้อเตาแก๊สจากโรงงานมาขายที่ BigC แม้จะสามารถทำยอดขายได้หลักล้าน แต่สำหรับเขารู้ดีว่า แค่นี้ยังไม่เพียงพอสำหรับการขายสินค้าให้ห้าง แต่ด้วยแนวทางที่แตกต่างกันกับเพื่อน จึงตัดสินใจแยกตัวออกมา 

จากนั้นได้รับการทาบทามให้ไปทำงานกับอีกหนึ่งบริษัท ด้วยความน่าสนใจที่เขามีเงินให้นำไปบริหาร ซึ่งเป็นแบบนั้นจริง ๆ คือมีแต่เงินให้ ที่เหลือเขาต้องไปบริหารจัดการเอง จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปหาโรงงานที่ประเทศจีน เมื่อได้สินค้าและราคาต้นทุนที่ต้องการ ก็ดำเนินการกลับไปที่ BigC เพื่อติดต่อขอนำสินค้ามาวางจำหน่าย แต่ทำอยู่ที่นั่นได้เพียง 5 ปี เพราะคิดว่าด้วยความสามารถของตัวเอง ถ้าทำงานอยู่ที่นั่น มากสุดก็คงเป็นเซลล์ที่ขายสินค้าได้ดี แต่ไม่ใช่สำหรับเขา เพราะเขาต้องการเป็นเจ้าของ 

หลังจากนั้นไม่นาน จึงมีโอกาสได้รับเชิญให้เป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท กับผู้ร่วมก่อตั้งอีก 2 คน จนกลายมาเป็น บริษัท สเต็ป ฟอร์เวิร์ด กรุ๊ป จำกัด ตัวแทนจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ “SmartHome” ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2556 โดยสินค้าที่นำเข้ามาขาย 2 ชนิดแรกคือ หม้อหุงข้าว และ กระติกน้ำ 

แม้จะเป็นแบรนด์สัญชาติไทย แต่ก็ต้องยอมรับว่า สินค้าเป็นการนำเข้ามาจากประเทศจีน ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแบรนด์ที่ต้องการนำเสนอสินค้าที่ดี มีคุณภาพ แต่ราคาเข้าถึงได้ จึงต้องมีการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าตั้งแต่ออกจากโรงงาน นอกจากนั้นเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในสินค้า จึงมีการรับประกันยาวนานถึง 3 ปี และส่วนหนึ่งที่ทำให้สามารถขายในราคาที่ต่ำกว่าแบรนด์อื่น ๆ ได้ มาจากการที่หาแหล่งผลิตที่ได้ต้นทุนการผลิตต่ำ แล้วแบรนด์ก็เอาอัตรากำไรที่ต่ำ แต่เน้นขายให้ได้จำนวนปริมาณที่สูง 

ซึ่งก็ดำเนินกิจการมาเรื่อย ๆ จนมาเจอกับวิกฤตโควิด-19 ซึ่งหลายแบรนด์ก็ประสบกับวิกฤตินี้เช่นกัน แต่เขาสามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส จนสามารถสร้างยอดขายไปถึงหลักพันล้านได้แต่เขามองว่าเป็นยอดขายที่มาจากวิกฤต ไม่ใช่ยอดขายในสถานการณ์ปกติ เขาจึงคิดว่าหากต้องการรักษาระดับรายได้ต้องตัดสินใจทำอะไรซักอย่าง

จึงเป็นเริ่มต้นของการมีเว็บไซต์และทำการตลาดอย่างจริงจัง โดยในปัจจุบันสินค้าของ Smart Home มีจำหน่ายอยู่ทั่วทั้งประเทศ ตามห้าง สรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงช่องทางออนไลน์ จนทำให้สามารถขายเครื่องใช้ไฟฟ้าได้เฉลี่ยเดือนละกว่า 2 แสนชิ้น สร้างยอดขายไปกว่า 1.4 พันล้านบาทในปีที่ผ่านมา และกำลังเดินหน้าบุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น  และเรื่องราวทั้งหมดที่เล่ามา เป็นเรื่องราวของคุณธวัช มานะวงค์ กรรมการบริหาร บริษัท สเต็ป ฟอร์เวิร์ด กรุ๊ป จำกัด 

เรียบเรียงโดย: THE INSIDER 
Source
– https://www.smart-home.co.th/about 
– https://at-once.info/th/electric-product-part-industrial-service/cp/step-forward 
– https://www.youtube.com/watch?v=snv2u41ZRDI