Subway ขายดี จนต้องขายกิจการ?

0
Subway ขายดีแต่ทำไมต้องขายกิจการ?

ความเป็นเจ้าตลาดของ SUBWAY

ในปัจจุบันนี้ถ้าพูดถึงแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดที่มีสาขามากที่สุดในโลก คงหนีไม่พ้นชื่อของ “SUBWAY” อเมริกันฟาต์ฟู้ด ที่ขายแซนวิชและสลัดเป็นหลัก โดยมีสโลแกนคือ ”Eat Fresh”

     ปัจจุบันสาขาของ SUBWAY มีอยู่มากกว่า 44,333 แห่ง ในกว่า 111 ประเทศทั่วโลก และไม่มีเลยสักแห่งที่บริหารโดยบริษัท Doctor’s Associates, Inc.(DAI) ซึ่งเป็น เจ้าของ SUBWAY ทุกสาขาล้วนแต่เป็นของ franchisee หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์ทั้งสิ้น ซึ่งมีข้อดีคือทำให้บริษัทลดความเสี่ยง และสามารถทุ่มเทกลยุทธ์การตลาด และการขยายแฟรนไชส์อย่างเต็มที่ ด้วยเหตุที่เป็น Fastfood restaurant franchise จึงทำให้ SUBWAY กลายเป็นแบรนด์ ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก

   โตเร็วขนาดนี้คงทำรายได้มหาศาลแน่ๆ?

ใช่ครับ SUBWAY มียอดขายทั่วโลกรวมกันกว่า 9.4 พันล้านดอลลาร์ หรือราว ๆ 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งถ้าคิดเฉพาะสหรัฐอเมริกาประเทศเดียวก็กินส่วนแบ่งไปแล้วกว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ หรือราว ๆ 5.3 หมื่นล้านบาทในปี 2021

    แล้วอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ SUBWAY ประกาศขายกิจการ?

ทั้งๆที่ ดูภาพรวมแล้ว กำไรมหาศาล+จำนวนสาขาที่มากมาย ก็ไม่น่าสร้างปัญหาอะไรได้แถมยังเป็นไม่กี่แบรนด์ที่สามารถฟื้นตัวหลังสถานการณ์โควิดได้อย่างรวดเร็ว?

   คำตอบของคำถามนี้เราจะต้องพาทุกคนย้อนกลับไปในปี 2562

ที่ Subway พยายามพลิกฟื้นธุรกิจภายใต้การบริหารของ จอห์น ชิดซีย์ ที่เข้ามารับตำแหน่ง CEO เมื่อปี 2562 โดยบริษัทได้ปรับเปลี่ยนเมนูอาหาร หาผู้ซื้อแฟรนไชส์รายใหม่ และลงทุนในด้านเทคโนโลยี แม้ตลอดหลายปีผ่านมาบริษัทจะเติบโต และมียอดขายที่มากขึ้น แต่ก็ต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงลิ่วและการแข่งขันที่สูงขึ้นเช่นกัน

  หลังโควิด ซับเวย์ฟื้นตัวก้าวกระโดด รายได้ดีดถึง 474%

ทั้งนี้ ฐานเศรษฐกิจ ได้ติดตามผลประกอบการแฟรนไชส์ Subway ทั้งหมดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาในช่วง พ.ศ. 2563-2564  บริษัทมีรายได้สุทธิเฉลี่ย 19,364,000 ดอลลาร์ (669 ล้านบาท)  รายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 474% ในปี 2564 เมื่อเทียบกับปี 2562 และ 2563

โดยในปี 2564 รายได้ ซับเวย์ เติบโตอย่างก้าวกระโดด หลังทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวจากการระบาดของโควิด-19 และเมื่อรายได้เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่เพิ่มในอัตราที่ช้าลงมาก ส่งผลให้รายได้สุทธิของซับเวย์สูงขึ้น

ขายดีแต่ก็มีจุดอ่อน

เห็นโดดเด่นอย่างนี้แต่ยังมีจุดที่เรียกได้ว่า เป็น Pain poin อยู่บ้าง….

ถึงแม้จะขายดี มีสาขาทั่วโลกกว่า 37,000 สาขา แต่จุดอ่อนของ Subway คือ การมีคู่แข่งในตลาดแซนด์วิชที่มากเกินไป แถมราคาขายก็ไม่ได้ถูกเมื่อเทียบกับคู่แข่งเจ้าอื่น ๆ รวมทั้งความหลากหลายของเมนูก็ไม่ได้มากเท่าไร 

แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น Subway ก็มีข้อได้เปรียบที่ทำให้แบรนด์ตัวเองเหนือกว่าเจ้าอื่น ๆคือการมีสาขาจำนวนมากและการให้บริการที่รวดเร็ว

ปัจุบันแม้จะยังไม่มีการเปิดเผยมูลค่าการซื้อขายกิจการครั้งนี้จากทั้ง Subway และ Roark แต่หากย้อนไปดูข้อมูลจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลที่เคยรายงานไว้ พบว่าข้อเสนอสุดท้ายอาจมีมูลค่าประมาณ 336,000 ล้านบาท 

สรุปได้ว่าการที่ SUBWAY ประกาศขายกิจการนั้นคงไม่ใช่เหตุผลในเรื่องของการขาดทุนในปัจจุบัน SUBWAY      ดำเนินกิจการในฐานะเป็นธุรกิจครอบครัว เพียงแต่การประกาศขายกิจการนั้นเพราะต้องการ เปลี่ยนรูปแบบทางธุรกิจ และหาแนวทางใหม่ๆที่จะช่วยให้แฟรนไชส์ เติบโตขึ้นมากกว่านี้ และทำกำไรได้ต่อไป.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *