สร้างแบรนด์ที่ลูกค้ารัก ด้วยกลยุทธ์จาก Mo-Mo-Paradise และเด็กสมบูรณ์

ถ้าลูกค้า “จำแบรนด์เราได้” แต่ลูกค้า “ไม่กลับมาซื้อซ้ำ” นั่นคือแบรนด์จริง ๆ หรือไม่?
ในวันที่การแข่งขันทางธุรกิจรุนแรงกว่าที่เคย หลายแบรนด์ต่างเร่งรีบความโดดเด่นให้เป็นที่จดจำ แต่อีกด้านหนึ่งกลับมีบางแบรนด์ที่เลือกเส้นทางเงียบ ๆ แต่หนักแน่น สร้างแบรนด์จากคุณภาพ ความเชื่อใจ และตัวตนอย่างแท้จริง สิ่งที่ได้จากการฟังประสบการณ์จากสอง Guest Speaker ระดับตำนาน คุณท็อป-วสุพล จาก “เด็กสมบูรณ์” และคุณเอ-สุรเวช จาก “Mo-Mo-Paradise” ในฐานะ Guest Speaker ของ XMBA รุ่นที่ 13 คือบทเรียน Branding ที่ไม่ใช่แค่การตลาด แต่เป็นการปลุกหัวใจแบรนด์ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
เคล็ดลับการสร้างแบรนด์ที่ลูกค้ารัก
ในยุคที่ร้านอาหารญี่ปุ่นเต็มตลาด และสินค้าซีอิ๊วถูกผลิตออกมาหลายแบรนด์ ความสำเร็จของ “Mo-Mo-Paradise” และ “เด็กสมบูรณ์” กลับเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการสร้าง “Brand Trust” หรือความเชื่อใจที่เกิดของการส่งมอบสินค้าและการบริการที่ดี
“Mo-Mo-Paradise”: แบรนด์ที่เริ่มจากเชื่อใน “สินค้าและบริการ” ที่ดี
คุณเอ-สุรเวช เตลาน เจ้าของแฟรนไชส์ Mo-Mo-Paradise เล่าว่า ช่วงแรกไม่เน้นทำการตลาด แต่ใช้พนักงานในร้านเป็น “แบรนด์แอมบาสเดอร์” ส่งความจริงใจและคุณภาพสู่ลูกค้าโดยตรง จนเกิดการตลาดแบบ “ปากต่อปาก” ที่ทรงพลังแม้ Mo-Mo-Paradise จะนำวัฒนธรรมการกินแบบญี่ปุ่นเข้ามา และเจอความท้าทาย เช่น การเสิร์ฟไข่ดิบที่คนไทยไม่คุ้นเคย แต่พวกเขายืนยันที่จะ “สื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจ” ไม่ใช่เปลี่ยนลูกค้าให้ถูกใจ พร้อมความสม่ำเสมอในรสชาติ คุณภาพ และการบริการ กลายเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ลูกค้ารักและกลับมาใช้บริการซ้ำ ๆ
“เด็กสมบูรณ์”: แบรนด์อายุ 80 ปี ที่ไม่เคยหยุดพัฒนา
ในฐานะทายาทรุ่นที่ 3 ของเด็กสมบูรณ์ คุณท็อป-วสุพล ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ ตั้งใจจะลบภาพลักษณ์ “พ่อสร้าง ลูกใช้ หลานทำพัง” ด้วยการ refresh brand ให้สดใหม่ แต่ยังรักษาคุณภาพและรสชาติที่คงที่มาตั้งแต่วันแรก คุณท็อปเน้นย้ำว่า “แบรนด์ที่ยั่งยืนไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ แต่เป็นความไว้ใจที่สร้างขึ้นจากคุณภาพที่แท้จริง” ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่น ไอศกรีมซีอิ๊วและซีอิ๊วโซดา เพื่อรองรับโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ แต่ยังคงยึดค่านิยมหลักคือ ความปลอดภัยและคุณภาพที่สม่ำเสมอ
[Key Takeaway] 1. การสร้างแบรนด์ที่ยั่งยืนต้องเริ่มจาก “ของจริง” ไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ เพราะลูกค้าจะจดจำความรู้สึกและคุณภาพที่แท้จริงมากกว่าสิ่งที่มาจากการโฆษณา 2. “Persona Branding” ของผู้ก่อตั้งเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยสะท้อนตัวตนและส่งต่อความเชื่อไปยัง Corporate และ Product Branding อย่างต่อเนื่อง 3. ความสม่ำเสมอในการรักษาคุณภาพของสินค้าและบริการ เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ลูกค้าเชื่อใจและกลับมาใช้บริการซ้ำ ไม่ว่าจะผ่านกาลเวลาไปนานแค่ไหนก็ตาม 4. การตลาดแบบปากต่อปาก (World of Mouth) เป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง ที่ไม่ต้องใช้เงินโฆษณาจำนวนมาก แต่ต้องสร้างแบรนด์ให้ดีจนลูกค้าอยากบอกต่อด้วยตัวเอง 5. การรีเฟรชแบรนด์ (Refresh Brand) ที่แท้จริง คือการรักษาคุณค่าหลักไว้ พร้อมเสริมสิ่งที่ขาด ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน
จากประสบการณ์ของทั้ง Mo-Mo-Paradise และเด็กสมบูรณ์ บอกกับเราว่า หัวใจของแบรนด์ไม่ใช่แค่สี โลโก้ หรือแคมเปญ แต่เป็น “ความเชื่อมั่นใจสิ่งที่เราทำ” และ “ความจริงใจที่เราส่งออกไป” ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใหม่ที่สร้างมาจากศูนย์ หรือแบรนด์เก่าที่ต้องการรีเฟรช การสื่อสารความเป็นตัวตน และการยืนหยัดในคุณภาพ คือสิ่งที่จะสร้าง “แบรนด์ที่คนรัก” ได้ในระยะยาว โดยไม่ต้องพึ่งพาการโฆษณาที่ใช้งบประมาณมหาศาล แต่ให้ลูกค้ากลายเป็นกระบอกเสียงที่ดีที่สุด ด้วยความรู้สึกของตัวลูกค้าเอง
เรียบเรียงโดย: THE INSIDER