วางแผนการเงินธุรกิจให้โตไว ด้วยกลยุทธ์จาก Warrix

คุณรู้หรือไม่…ว่าแม้ธุรกิจจะกำไรดี แต่ถ้าหมุนเงินไม่ทัน ก็อาจล้มได้ในพริบตา?
ในโลกของการทำธุรกิจที่ความเร็วกลายเป็นหัวใจ และการตัดสินใจที่แม่นยำเป็นอาวุธ หลายคนเลือกที่จะทุ่มพลังให้กับการตลาด การขาย หรือการพัฒนาสินค้า แต่กลับหลงลืมองค์ประกอบสำคัญอย่าง “การเงิน” ที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงองค์กร สิ่งที่ได้เรียนรู้จากคุณฮิม-ศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล CEO ของ Warrix ในฐานะ Guest Speaker ของ XMBA รุ่น 13 คือ การเงินไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข แต่มันคือ “กลยุทธ์การอยู่รอดและการเติบโต” ที่ทุกคนควรรู้ และต้องรู้ให้ลึกพอที่จะตัดสินใจได้เอง
[การเงินไม่ใช่เรื่องไกลตัว]
คุณฮิมเปิดประเด็นด้วยคำถามแบบเรียบง่ายว่า “จะโต 100 ล้าน ต้องใช้เงินเท่าไหร่?” — คำตอบคือ ไม่ใช่แค่ 100 ล้าน แต่มากกว่า 500 ล้าน แต่ถ้าไม่มี อีกหนทางหนึ่งคือ “หมุนเงินให้เร็วขึ้น” เพราะในการทำธรกิจ เงินไม่ได้หมุนกลับมาทันที แต่ต้องรอผลิต วางบิล ตัดรอบ จ่ายทีหลัง ผลคือ เงินหมุนได้กี่รอบ ถ้าหมุนได้น้อยรอบ กำไรก็น้อย โตก็ช้า
จุดเปลี่ยนของธุรกิจจึงไม่ได้อยู่แค่ “ขายได้” หรือ “กำไรดี” แต่เป็น “ความเร็วของการหมุนเงิน” (Cash Cycle)
[เรื่องที่เจ้าของกิจการควรรู้]
- เงินที่กู้มาเพื่อใช้ระยะยาว ห้ามเอาไปจนในของระยะสั้น
- ถ้าเช่าแล้วถูกกว่าดอกเบี้ยธนาคาร เลือกเช่าดีกว่า
- ตั๋ว PN (Promissory Note) สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการขอกู้เงินได้
- ถ้าจะให้บริษัทโต ต้องมีการ “เพิ่มทุน” ซึ่งมาจากได้ 2 กรณีคือ กู้เงินมากขึ้น และ ระดมทุน เช่น การเข้าตลาดหลักทรัพย์
- ตลาดเงิน Vs ตลาดทุน > ตลาดเงิน มาในรูปแบบของเงินกู้ เป็นหนี้สิน เสียดอกเบี้ย และสุดท้ายก็ต้องใช้เงินคืน มีข้อดีคือไม่สูญเสียความเป็นเจ้าของ > ตลาดทุน ที่คนส่วนใหญ่รู้ก็คือการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ กลายเป็นบริษัทมหาชน ส่งผลให้มีผู้ถือหุ้นมากขึ้น ดังนั้นสัดส่วนความเป็นเจ้าของของเราก็ลดน้อยลง
- เจ้าของบริษัทในตลาด แม้จะบอกว่ามีเงินเป็นร้อยล้าน พันล้าน ก็เป็นเพียงตัวเลข ตราบใดที่ไม่ขาย
[ข้อดีของการเข้าตลาดหลักทรัพย์]
1. เป็นแหล่งระดมเงินทุนระยะยาว 2. มีภาพลักษณ์องค์กรที่ดี 3. การเชื่อมโยงทางธุรกิจ 4. ความภาคภูมิใจของบุคลากรในบริษัท 5. การบริหารงานแบบมืออาชีพ 6. สิทธิประโยชน์ทางภาษีและเงินปันผล 7. เป็นทางออกของธุรกิจครอบครัว 8. Capital Gain (กำไรที่ได้จากการขายสินทรัพย์): ในกรณีที่ไม่เข้าตลาดหลักทรัพย์ การขายทรัพย์สินถือเป็นเงินได้บุคคลธรรมดา ต้องเสียภาษีเงินได้ แต่หากอยู่ในตลาด การขายหุ้น ถือเป็นกำไรจากการขาย ไม่ต้องเสียภาษี
[Key Success ที่จะนำพาธุรกิจเข้าตลาดและผ่านเกณฑ์]
1. Set Goal ให้ชัดเจน 2. Big Data วิเคราะห์ข้อมูลในกิจการว่าจะใช้แผนใดในการเข้าตลาด 3. Tool Management/Digital Transformation 4. Account System จัดการระบบบัญชีให้แข็งแรง 5. SOP/มาตรฐาน/ขั้นตอนการทำงาน ต้องชัดเจน 6. การควบคุมภายในต้องละเอียด แม่นยำ และตรวจสอบได้ 7. มีความรู้ในการเลือก partner หรือหน่วยงานกำกับดูแล
[เหตุผลที่ธุรกิจหลายธุรกิจใช้เวลานานหรือเข้าตลาดไม่ได้]
1. มีโครงสร้างทางธุรกิจที่ไม่ชัดเจน ไม่เป็นธรรม ก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ 2. บริษัทยังมีระบบการควบคุมที่ไม่เพียงพอ ไม่มีประสิทธิภาพ 3. บริษัทยังมีระบบบัญชีที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานบัญชี 4. ผลประกอบการมีกำไรต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
[Key Takeaway]
- เข้าใจบัญชี การเงิน แลภาษี เป็นแต้มต่อของจ้าของธุรกิจ — ความไม่รู้ทางการเงินและภาษีอาจกลายเป็นค่าปรับราคาแพง เรียนรู้เพื่อป้องกันความเสี่ยงและตัดสินใจอย่างแม่นยำ
- เลือกเติบโตอย่างมีสติ กู้เงินหรือระดมทุน ต้องไม่ทิ้งภาระไว้ข้างหลัง — การขยายธุรกิจต้องคิดระยะยาว ไม่ใช่แค่ผลกำไรวันนี้ แต่รวมถึงภาระทางการเงินของคนรุ่นถัดไปด้วย
- การเข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้มีแค่เรื่องเงน แต่เป็นการสร้างมาตรฐานขององค์กร — จากการระดมทุนถึงการบริหารแบบมืออาชีพ การ IPO ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือ และเปิดทางสู่โอกาสใหม่
- ทุกไอเดียต้องมีคนกล้าค้าน: “Idea Killer” สำคัญต่อการเติบโตที่ยั่งยืน — บอร์ดบริหารที่แข็งแรงควรมีคนกล้าท้าทายความคิดของ CEO เพื่อลดความเสี่ยงจากการตัดสินใจแบบเอนเอียง
- ในทุกโอกาสมีความเสี่ยง และในทุกความเสี่ยงมีโอกาส ถ้าเราลงมือทำ — ไอเดียดีไม่พอ ต้องวิเคราะห์ในรอบด้านก่อนเสมอ และกล้าลงมือพิสูจน์ เพราะ “ความคุ้มค่า” มีค่ามากกว่าคำว่า ถูกหรือแพง
“คนที่หิวเงิน จะไม่มีวันอิ่มเงิน” (คุณฮิม-วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล)
บทเรียนจากคุณฮิม นอกจากเป็นเรื่องของการเงิน ก็ยังสามารถเปลี่ยนมุมมองต่อ “ธุรกิจ” แบบทั้งระบบ ตั้งแต่การวางโครงสร้างองค์กร การเข้าใจรอบหมุนของเงิน ไปจนถึงวิธีการสร้างความยั่งยืนโดยไม่สร้างภาระให้กับคนรุ่นหลั ไม่ว่าเราจะเพิ่งเริ่มต้นหรือกำลังอยู่ในช่วงขยายกิจการ หากเราเข้าใจ “การเงิน” อย่างแท้จริง นี่อาจเป็นสิ่งเดียวที่จะช่วยให้เราเติบโตแบบมีทิศทาง และรอดในวันที่ทุกอย่างเปลี่ยนเร็วเกินจะควบคุม
เรียบเรียงโดย: THE INSIDER