แนวคิดบริหารวิกฤตของผู้นำฟื้นฟูการบินไทย: ดร. ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์

เมื่อช่วงเวลาหนึ่งที่โลกต้องเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 หนึ่งในภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ “อุตสาหกรรมการบิน” การฟื้นฟูองค์กรที่เคยถูกมองว่า “ใหญ่เกินกว่าจะล้ม” อย่างการบินไทย จึงกลายเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ หนึ่งในบุคคลที่ได้รับความไว้วางใจในการรับภาระกิจในการฟื้นฟูกิจการ คือ “ดร. ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์” อดีตรัฐมนตรีและนักเศรษฐศาสตร์ระดับประเทศ

ดร. ปิยสวัสดิ์ จบปริญญาตรีเกียรนิยมอันดับ 1 จาก Oxford University และจบระดับปริญญาโทและปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์จาก London School of Economics (LSE) ซึ่งล้วนเป็นรากฐานที่หล่อหลอมความสามารถของเขาด้านการวิเคราะห์และวางแผนเชิงระบบ นอกจากนี้มีส่วนสำคัญในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ โดยเฉพาะเมื่อต้องรับมือกับสถานการณ์วิกฤตที่ต้องอาศัยทั้งความรู้และความกล้า

หลังจากจบการศึกษา ดร. ปิยสวัสดิ์ เริ่มต้นอาชีพในหน่วยงานราชการ ก่อนจะไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดในสายงานนโยบาย โดยเขาดำรงตำแหน่งเป็นทั้ง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งบทบาทเหล่านี้ทำให้เขาเข้าใจโครงสร้างเศรษฐกิจมหาภาคและการจัดการทรัพยากรในระดับประเทศอย่างลึกซึ้ง ทักษะดังกล่าวกลายเป็นพื้นฐานสำคัญในภาระกิจฟื้นฟูกิจการในเวลาต่อมา

การบินไทยที่ประสบปัญหาต่าง ๆ มามากมาย เมื่อรวมกับวิกฤตโควิด-19 ทำให้ต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ดร. ปิยสวัสดิ์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) การฟื้นฟูในครั้งนี้ไม่ใช่แค่การตัดรายต่าย แต่เป็นการปฏิรูปโครงสร้างทั้งระบบ ตั้งแต่การเงิน การบริหาร ไปจนถึงวัฒนธรรมองค์กร โดยเขามองว่า “ข้อเสีย” อย่างการพ้นสถานะรัฐวิสาหกิจ กลับกลายเป็น “ข้อดี” ที่ทำให้องค์กรคล่องตัว และสามารถตัดสินใจในสิ่งที่สำคัญได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการราชการอันล่าช้า

หัวใจสำคัญของการฟื้นฟูการบินไทยอยู่ที่ 4 เงื่อนไขหลัก ได้แก่ การเพิ่มทุนจดทะเบียน, การดำเนินตามแผนโดยไม่ผิดนัด, ผลประกอบการที่เกินเป้า และการแต่งตั้งบอร์ดบริหารใหม่ ทุกเงื่อนไขนี้ไม่ใช่แค่เส้นชัยของแผน แต่เป็นจุดเริ่มต้นของโอกาสใหม่ การที่ EBITDA ทะลุ 40,000 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงวินัยทางการเงิน และศักยภาพขององค์กรที่ฟื้นคืนมาได้อย่างแท้จริง ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดการบินระดับโลก

เบื้องหลังตัวเลขเหล่านี้คือการตัดสินใจอันเฉียบคมและการนำองค์กรเชิงกลยุทธ์ เช่น การปรับปรุงฝูงบิน การพัฒนา Digital Infrastructure ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงบริการในจุดสัมผัสลูกค้าทุกระดับ รวมถึงการพัฒนาโปรแกรม Royal Orchid Plus เพื่อดึงดูดลูกค้าระยะยาว ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงการวางรากฐานการเติบโตที่ยั่งยืน ไม่ใช่แค่การ “ประคองชีวิต”

อีกหนึ่งบทเรียนสำคัญคือ “การสื่อสารที่โปร่งใสและมีเป้าหมาย” ไม่เพียงแต่กับภายในองค์กร แต่รวมถึงเจ้าหนี้ นักลงทุน และสังคมโดยรวม การบินไทยสามารถเปลี่ยนจากบริษัทที่เคยมีหนี้กว่า 4 แสนล้านบาท ให้กลับมามีกำไรอย่างต่อเนื่อง และมีส่วนผู้ถือหุ้นเป็นบวกภายในเวลาเพียง 4 ปี ส่วนหนึ่งเพราะความชัดเจนในวิสัยทัศน์ และการสร้างความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นทักษะที่ผู้นำยุคใหม่ไม่ควรมองข้าม

ล่าสุด ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งยกเลิกแผนฟื้นฟูกิจการอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดทางให้การบินไทยกลับเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในเดือนสิงหาคม 2568 ข้างหน้า การบินไทยกำลังเข้าสู่ช่วงใหม่ของการเติบโตอย่างยั่งยืน บนฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและกลยุทธ์การแข่งขันระดับโลก นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของแผนฟื้นฟู แต่เป็นจุดเริ่มต้นของ “Thai Airways 2.0” ที่ขับเคลื่อนด้วยวิสัยทัศน์และภาวะผู้นำที่แข็งแกร่ง

เรื่องราวของ ดร. ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ และการฟื้นฟูการบินไทย ไม่ใช่แค่เรื่องของการบริหารองค์กร แต่คือบทเรียนด้านการเป็นผู้นำในภาวะวิกฤต สำหรับผู้ประกอบการและ SME ทุกคน บทเรียนนี้คือแรงบันดาลใจว่า การฟื้นตัวจากวิกฤตไม่ใช่เรื่องของโชค แต่เป็นผลของ “การวางแผน วิสัยทัศน์ และการลงมือทำอย่างมีวินัย”

เรียบเรียงโดย: THE INSIDER
Source
– https://youtu.be/wQnuTelS2ig?si=kJGeTV29304YBZ-Z
– https://youtu.be/jrWy1fv5u5c?si=57qAxJD-rqCmgrRu
– https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/2864781