ธุรกิจควรสร้างคอนเทนต์เองหรือจ้าง Influencer?

ในยุคที่ทุกคนกลายเป็น Creator ได้ แล้วธุรกิจควรเป็นผู้ดูหรือควรกระโดดเข้ามาในเกมนี้เอง?
ทุกวันนี้ “Content” ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือทางการตลาดอีกต่อไป แต่กลายเป็น “ภาษาหลัก” ในการสื่อสารในโลกยุคใหม่ที่ธุรกิจและผู้บริโภคคุยกันได้อย่างใกล้ชิด ใน XL-Class ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ X-Club สถานที่ที่เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สามของเหล่านักธุรกิจ คุณอิสระ ฮาตะ Co-Founder ของ Rubsarb Production ได้มาเล่าให้ฟังอย่างจริงใจถึงประสบการณ์ 15 ในโลกของ “Creator” พร้อมแชร์วิธีคิด เพื่อให้ Content “ยังมีชีวิต” ไปได้ในระยะยาว
โดยสามารถสรุปสิ่งที่น่าสนใจจากใน Class ได้ดังนี้
- สื่อถูกเปลี่ยนผ่านจากในอดีตที่มีการควบคุม มาสู่ความเป็นอิสระของแต่ละบุคคล ใครที่มีกล้อง ก็กลายเป็นสื่อหรือ creator ได้
- การที่บางช่วงเวลา creator ไหลไปอยู่ในแค่บางแพลตฟอร์ม (platform) ส่วนหนึ่งมาจาก “เงิน” ที่แพลตฟอร์มนั้น ๆ ดึงดูด
- แต่ธรรมชาติของแพลตฟอร์มคือ “มาเร็ว ไปเร็ว” ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องกระโดดไปอยู่ในทุกแพลตฟอร์ม
- TikTok เป็นแพลตฟอร์ม ไม่ใช่กระแส ถ้าไม่เข้าไป เรียกได้ว่าตกขบวนแน่ ๆ เพราะมันรวมคนไว้ ยังไงก็ต้องลงไปเล่น
- จากประสบการณ์มากกว่า 15 ปีของคุณอิสระ สิ่งที่ทำให้ content ยืนระยะได้ยาว คือ “ความจริงใจ” เพราะสิ่งนี้จะดึงดูดคนและทำให้คนเชื่อ ซึ่งสามารถทำได้จากการหยิบ “ตัวตน” ของตัวเองมาสร้าง charactor แม้บางครั้งอาจจะต้องเกาะกระแส แต่สิ่งสำคัญ “อย่าหลุดตัวตน”
- ธุรกิจหากจะทำ content เป็นของตัวเอง ควรเริ่มจาก “สิ่งที่เป็นตัวเองจริง ๆ” เพราะ คอนเทนต์ที่ดี ไม่จำเป็นต้อง viral ทุกคอนเทนต์ แต่ต้อง “จริงใจ” และ “ตรงใจ” เมื่อสร้าง loyalty ได้แล้ว ขายอะไรเขาก็ซื้อ
- หรือถ้าธุรกิจจะจ้าง Creator หรือ Influencer ต้องเข้าใจก่อนว่า สองสิ่งนี้มีความแตกต่างกัน เพราะ Influencer บางคน ไม่ได้ทำ Content ที่ปัง แต่สิ่งที่เขามีคือ “ฐานคนติดตาม” ดังนั้นถ้าจะจ้าง Influencer แบรนด์ควรมี Content ของตัวเองไว้รองรับ
- และแบรนด์ไม่ต้องใช้ Influencer ก็ได้ เพราะถ้าขายของเฉพาะกลุ่ม อาจใช้การยิง Ads ก็เพียงพอ เช่น ลูกค้า BSB เขาอาจจะไม่ได้อยู่ในโลกออนไลน์ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ Influencer ชื่อดัง
- ในกรณีที่เจ้าของแบรนด์ต้องการทำให้ตัวเองเป็น CEO Branding หรือ Personal Branding สิ่งหนึ่งที่ต้องคิดคือ “เป็นแล้วเลิกไม่ได้” ดังนั้นแบรนด์อาจจะไม่ต้องใช้หน้าเจ้าของก็ได้ ถ้าสามารถสื่อสารผ่านคนอื่นได้ดีพอ
- Personal Branding คือ IP (Intellectual Property) ที่สร้างมูลค่าได้ โดยการ “ทำย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ จนเขาจำได้”
- อาการหมดไฟ (Burnout) มักเกิดจากตัวเราที่กอดทุกอย่างไว้คนเดียว สิ่งที่จะช่วยให้หลุดจากจุดนี้ได้ ก็ต้องเปลี่ยนบรรยากาศ ไปเจอสิ่งใหม่ ๆ สถานที่ใหม่ ๆ แม้กระทั่งเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
- Viral Content ไม่มีสูตรสำเร็จที่ตายตัว แต่เกิดขึ้นได้แน่นอน จากความสม่ำเสมอ
- พฤติกรรมคนดูในปัจจุบันของ YouTube คือ “ดูยาว ๆ เปิดทิ้งไว้” ซึ่งแตกต่างจาก TikTok ที่เน้นเร็วและไว
- ทุกคนมีเรื่องที่ชอบมาก ๆ หรืองานอดิเรกบางอย่างอยู่แล้ว ซึ่งทุกคนสามารถนำสิ่งเหล่านั้นมาทำ content ได้ แต่อยู่ที่ว่าเราจะเริ่มเมื่อไหร่
- เมื่อตั้งใจที่จะทำแล้ว ให้ทำไปเรื่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอ สักวันมันจะเป็นวันของเรา และเมื่อมีแพลตฟอร์มใหม่ ๆ ย่อมต้องมี Star ดวงใหม่เกิดขึ้นเสมอ
ดังนั้นในยุคของ Content Economy ที่ทุกคนสามารถเป็นคนเล่าเรื่องได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะยืนอยู่ได้ในระยะยาว ความจริงใจ ความต่อเนื่อง และความเข้าใจในผู้ชม จึงกลายเป็นหัวใจของการอยู่รอดในโลกของคอนเทนต์ ซึ่งทุกก้าวของการทำ content เป็นการ “ค้นหาตัวตน” และ “ตอบตัวเองให้ได้ว่าทำไปเพื่ออะไร”
เรียบเรียงโดย: THE INSIDER