เปลี่ยนชีวิตการทำงานด้วย AI อย่างมีขั้นตอน

ท่ามกลางโลกที่หมุนไปด้วยเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว การยืนอยู่กับที่นอกจากจะเป็นความเสี่ยง ยังเป็นการถอยหลังแบบไม่รู้ตัว สิ่งที่คุณง้วง-ชวลิต เดชะนรานนท์ เจ้าของสถาบันติดกระดุมเม็ดแรก เล่าไว้ใน Xclusive Classromm ใน X-Club กำลังบอกเราว่า “AI ไม่ใช่เรื่องของอนาคต แต่มันคือปัจจุบันที่ต้องลงมือทันที” บทเรียนจากใน Class ไม่ใช่แค่การใช้ AI แต่เป็นการ “เข้าใจเกมใหม่ของโลก” แล้วเดินเกมนั้นให้ทันก่อนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง โดยสามารถสรุปสิ่งที่น่าสนใจได้ดังนี้

1. AI ไม่ได้มาแทนคน แต่มาช่วยให้คน “ทันเกม” มากขึ้น
2. สิ่งสำคัญไม่ใช่การใช้ AI ตัวไหน แต่คือ “การเริ่มต้นใช้” ให้เร็วที่สุด หากคุณยังไม่เริ่มใช้ AI คู่แข่งของคุณกำลังไปไกลในทุกวินาทีที่คุณนิ่งเฉย
3. AI แต่ละประเภทมีความถนัดต่างกัน บางตัวถนัดคิด บางตัวถนัดสร้างภาพ หรือวิดีโอ – AI ด้านวิเคราะห์ (Brain+Analysis) เช่น: ChatGPT, Gemini, Deepseek, Claude, Perplexity – AI ด้านภาพ (Image Gen) เช่น: Recraft, Freepik, Google AI Studio – AI ด้านวิดีโอ (VDO Gen) เช่น: Google VEO 3, Runway, OpenAI SORA
4. AI Transformation มี 7 ขั้นตอน (AI Organization Transition) ได้แก่:
   – stage 1: Don’t Know
   – stage 2: Don’t use get
   – stage 3: Framework promting
   – stage 4: Tasks and Tools promting
   – stage 5: Custom AI (ต้องเป็นเวอร์ชัน Subscription)
   – stage 6: AI automation – stage 7: AI Driven Organization หรือ AI Agent **ภายในปี 2026 องค์กรควรอยู่ใน stage 4: Tasks and Tools promting
5. ใช้ AI ให้ CEO = Clear + Execue + Opportunity
6. เริ่มต้นการใช้งาน AI ควรใช้ Framework “RICE”
   – R = Role (บทบาทที่ต้องการให้ AI เป็น)
   – I = Insight (เราเป็นใคร หรือทำอะไรอยู่)
   – C = Context (บริบทที่อยากให้ช่วย)
   – E = Example (ตัวอย่างเพิ่มเติม เช่น โปรเจกต์ที่ผ่านมา หรือคู่แข่ง); การใส่ตัวอย่างเพิ่ม โอกาสได้ผลลัพธ์ดีขึ้นกว่า 50%
7. คำตอบจากคำสั่งแรก หลังจากเราอ่านแล้ว คำตอบที่ดีต้องมี KPI มากกว่า 50% โดยวัดจากความพึงพอใจของเราเอง ถ้าน้อยกว่านั้น ให้แก้ไขคำสั่ง (Prompt) ใหม่อีกครั้ง
8. ถ้าคำตอบที่ได้นำไปปรับใช้ยาก ให้ขอคำตอบแบบ “Step by Step” หรือคำตอบที่ได้อ่านแล้วเข้าใจยาก ให้ลองบอกว่าขอคำตอบแบบ “ระดับประถม” อย่าบอกว่าขอแบบเข้าใจง่าย เพราะระดับความยากง่ายของแต่ละคนไม่เท่ากัน
9. ทุกการตอบของ AI ล้วนใช้พลังงาน ให้สังเกตหลังจากคำตอบ หากมีข้อความ เช่น “จะให้ทำอะไรเพิ่มอีกไหม” แสดงความมีพลังงานเหลือในการทำงานต่อ
10. AI ชอบให้ Feedback อย่างตรงไปตรงมา ชอบก็บอกว่าชอบตรงไหน ไม่ชอบก็บอกว่าไม่ชอบตรงไหน แต่ AI จะไม่ชอบการโดนด่าแบบแรง ๆ
11. ChatGPT ปัจจุบันสามารถให้ไฟล์ Excel, Doc, PDF
12. AI ที่น่าสนใจ – Varoriya.com >> สร้างภาพดี ควบคุมขนาดวัตถุได้ – Runwayml.com >> สร้าง VDO คุณภาพ – https://manus.im/guest >> AI Agent ระดับ Stage 7
13. ปี 2025 ควรมี AI Operator 1 ตัวต่อ 1 องค์กร
14. ปีนี้คือ “ปีเผาจริง” เพราะ AI Disruption มาแล้ว
15. AI ช่วยเรื่อง ROTS (Return On Time Spent) ได้สูงมาก เช่น หากสามารถทำให้พนักงาน 1 คน ประหยัดเวลาได้วันละ 1 ชั่วโมง ในหนึ่งปี อาจได้เวลาทำงานเพิ่มขึ้นถึง 37 วัน แสดงให้เห็นว่า AI ช่วยทำงาน ทำให้ประหยัดเวลามากขึ้น

และสุดท้าย การเปลี่ยนผ่าน AI ต้องเริ่มจาก “ตัวเราเองก่อน”

โลกของ AI เป็น “โครงสร้างใหม่” ที่กำลังสร้างอนาคตให้กับธุรกิจและตัวเรา สิ่งที่คุณง้วงบอกไว้ ไม่ได้บอกให้เรากลัว AI แต่ชวนให้ “เริ่มลงมือก่อนที่จะสายไป” ปีนี้ไม่ใช่ปีแห่งการรอ แต่เป็นปีแห่งการทดลอง การเรียนรู้ และการลุกขึ้นมาใช้ AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับงานของเรา

แล้วคุณล่ะ พร้อมจะเริ่ม “ทดลองใช้ AI” เพื่อเปลี่ยนชีวิตการทำงานของคุณแล้วหรือยัง?

เรียบเรียงโดย: THE INSIDER