HOMESK โตจากศูนย์สู่พันล้านได้อย่างไร?

ในการทำทุกธุรกิจ จุดเริ่มต้นในการทำว่ายากแล้ว แต่การจะเริ่มจากจุดเล็ก ๆ แล้วทำให้ธุรกิจค่อย ๆ เติบโตและยืนยาว ในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอเป็นเรื่องที่ยากกว่า ซึ่งหนึ่งในธุรกิจที่เริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ เป็นร้านค้าปลีก ค่อย ๆ พัฒนา ปรับกลยุทธ์ตามตลาดและความต้องการของลูกค้า จนสามารถก้าวสู่ตลาดหลักทรัพย์กลายเป็นบริษัทมหาชนได้
จุดเริ่มต้นของธุรกิจนี้ ต้องย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2524 เป็นร้านค้าปลีกที่จำหน่ายกระเบื้องเซรามิก สุขภัณฑ์ พื้นไม้ปาร์เกต์ และวัสดุตกแต่งบ้าน โดยมีผู้ก่อตั้งคือ คุณนรินทร์ และคุณอุไรวรรณ อนุรุทธิ์เนตรศิริ ใช้ชื่อว่า “ห้างหุ้นส่วนจำกัดเชียงใหม่ลำปางปาเก้สุขภัณฑ์”
ต่อมาในปี พ.ศ. 2534 เมื่อทายาทรุ่นที่ 2 ก็คือคุณนพ อนุรุทธิ์เนตรศิริ เข้ามารับหน้าที่ในการบริหารจัดการบริษัท โดยใช้ความรู้ด้านบัญชีและบริหารธุรกิจ เข้ามาช่วยในการวางแผน วางกลยุทธ์ และบริหารธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งใช้เวลาในการพัฒนาและขยายธุรกิจเพียง 2 ปี ก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทได้
ภายใต้การบริหารงานของคุณนพ ได้ดำเนินการปรับรูปแบบจากการขายวัสดุก่อสร้างแบบร้านค้าปลีกทั่วไป มาเป็นแบบโชว์รูม ที่ต้องการให้ลูกค้าได้เห็นสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการเห็นลวดลายกระเบื้องได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงวัสดุตกแต่งบ้านอื่น ๆ นอกจากนั้นได้นำระบบซอฟต์แวร์เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการ ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น จนกลายเป็นที่มาของการเปลี่ยนชื่อมาเป็น “ห้างหุ้นส่วนจำกัด โฮมสุขภัณฑ์”
จากนั้นในปี พ.ศ. 2555 “ห้างหุ้นส่วนจำกัดเชียงใหม่ลำปางปาเก้สุขภัณฑ์” ก็ปิดให้บริการ และย้ายมารวมกันที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด โฮมสุขภัณฑ์ ซึ่งเป็นโชว์รูมที่สร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อรองรับจำนวนลูกค้าที่มากขึ้น จนนำไปสู่การขยายสาขาเป็นสาขาที่ 2 ในปี พ.ศ. 2557 ไปที่จังหวัดเชียงราย เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าในจังหวัดเชียงรายและใกล้เคียง และเปลี่ยนจากห้างหุ้นส่วนเป็น “บริษัท โฮมสุขภัณฑ์ จำกัด” ในปี พ.ศ. 2558 เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการ
จนกระทั่งในช่วงปี พ.ศ. 2560 เมื่อคู่แข่งรายใหญ่ ทั้ง HomePro และบุญถาวร ได้เริ่มขยายสาขามาที่จังหวัดเชียงใหม่ คุณนพจึงต้องหาทางเสริมจุดแข็งให้กับแบรนด์ของตัวเอง โดยการนำเข้ากระเบื้องจากประเทศจีน เพื่อเป็นตัวเลือกที่หลากหลายและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า จนกลายเป็นสินค้าที่สร้างรายได้หลักให้กับบริษัท ทำให้ในปี พ.ศ. 2562 บริษัทสามารถสร้างรายได้ไปถึงหลักพันล้าน
แต่เท่านั้นยังไม่เพียงพอต่อการสร้างจุดแข็งให้กับแบรนด์ จึงได้ทำการขยายการนำเข้ากระเบื้องจากประเทศอื่นเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอินเดีย เวียดนาม อินโดนีเซีย อิตาลี และสเปน เป็นต้น รวมไปถึงการมีสินค้าหลากหลายประเภทที่มีดีไซน์ใหม่ในทุก ๆ เดือน ทำให้มีสินค้ามากกว่า 1,000 แบบ พร้อมยังพัฒนาเทคโนโลยีแบบ 3 มิติ เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ
แม้ในปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมาจะต้องเผชิญความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและการแข่งขันที่รุนแรง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คุณนพ ก็สามารถยกระดับมาตรฐานของบริษัท โดยการแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน ได้สำเร็จ พร้อมทั้งวางแผนที่จะขยายสาขาไปยังจังหวัดนครราชสีมา โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนกว่า 250 ล้านบาท เพื่อเสริมศักยภาพในการแข่งขันและขยายฐานลูกค้าไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย และแผนในอนาคต ต้องการเป็นผู้นำด้านกระเบื้องเซรามิกและสุขภัณฑ์ ในตลาดของภูมิภาคนี้ โดยการพัฒนา House Brand เป็นของตัวเอง เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาด
กลยุทธ์ที่ทำให้แบรนด์สามารถครองใจลูกค้าได้ คือการบริการที่ยอดเยี่ยม และการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการทำธุรกิจ รวมไปถึงระบบจัดการคลังสินค้า พร้อมระบบการชำระเงินที่ทันสมัย เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งและสร้างความน่าเชื่อถือในตลาด
บทเรียนจาก HOMESK หรือ โฮมสุขภัณฑ์ สามารถเติบโตจากร้านค้าปลีกเล็ก ๆ จนกลายเป็นผู้นำในตลาดวัสดุก่อสร้างของเชียงใหม่ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการมองเห็นโอกาสและการปรับตัวตามความต้องการของตลาด รวมไปถึงการปรับกลยุทธ์ ทำให้สามารถประสบความสำเร็จในยุคที่ตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
สุดท้าย การจะเป็นผู้นำในตลาดที่มีการแข่งขันสูงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนและปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด เป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จ ซึ่ง HOMESK เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า เมื่อพร้อมที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์และมองหาวิธีในการปรับตัว คุณก็จะสามารถก้าวผ่านปัญหาอุปสรรค และนำพาธุรกิจให้มั่นคงและยั่งยืนได้
เรียบเรียงโดย: THE INSIDER
Source
– https://www.homesukkapan.com/content/view/2
– https://www.brandcase.co/48182
– https://www.thansettakij.com/real-estate/612621