Jacques Aschenbroich: กลยุทธ์การเปลี่ยนแปลง Valeo สู่ยุค Mobility

จากเจ้าหน้าที่ในองค์กรภาครัฐ ก้าวสู่บริษัทชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลก ท่ามกลางกระแสเปลี่ยนผ่าน ไม่ว่าจะเป็น ไฟฟ้า ปัญญาประดิษฐ์ และวิกฤตขาดแคลนชิป เขาสามารถพลิกเกมให้บริษัทวิ่งทันโลกการเปลี่ยนแปลง แม้ชื่อของเขาจะไม่ได้โดดเด่นในหน้าหนังสือพิมพ์ หรือเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก แต่เบื้องหลังการเติบโตแบบก้าวกระโดดของ Valeo ในยุค Mobility Revolution เป็นผลงานของ “Jacques Aschenbroich”
Jacques André Aschenbroich เกิดที่เมือง Lyon ประเทศฝรั่งเศส สำเร็จการศึกษาจาก École des Mines de Paris และถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “Corps des Mines” วิศวกรรัฐระดับสูงของฝรั่งเศส หลังจากนั้นเขาเริ่มงานอยู่ในส่วนของภาครัฐ โดยเข้าร่วมทำงานในคณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี Jacques Chirac ระหว่างปี 1987–1988 ทำให้เขาได้ปลูกฝังความรู้ด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ทำให้เขาสามารถเชื่อมโยงนโยบายกับการปฏิบัติจริงในภาคธุรกิจ
หลังจากนั้นเขาก้าวเข้าสู่ Saint‑Gobain ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ ในปี 1988 โดยดูแลสาขาในบราซิล เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา จนสามารถขึ้นมาเป็นรองประธานอาวุโส ดูแลวัสดุประสิทธิภาพสูง และ Flat Glass Division ระหว่างปี 2001-2008 ตลอดช่วงเวลานี้เขาได้ฝึกเรียนรู้การขับเคลื่อนองค์กรข้ามชาติ ทั้งด้านยุทธศาสตร์ การจัดการคน และนวัตกรรมภายในระบบใหญ่
ต่อมาในเดือนมีนาคม 2009 เขาก็ได้รับตำแหน่ง CEO ของ Valeo และเริ่มนำองค์กรสู่ยุค Mobility Tranformation โดยผลักดันให้ Valeo แบ่งธุรกิจเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ ระบบช่วยขับขี่, พาวเวอร์เทรน, ระบบระบายความร้อน และระบบทัศนะ พร้อมตั้งเป้าหมายเข้าสู่ตลาดที่เน้นการลดคาร์บอนไดออกไซด์ และยุทธศาสตร์ใน emerging markets การเติบโตนี้มาพร้อมกับแผนงบลงทุนด้าน R&D เกือบ 12% ของยอดขาย และสิทธิบัตรมากกว่า 2,000 รายการในไม่กี่ปี
อีกจุดสำคัญของการเปลี่ยนแปลงคือ ทิศทางนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ เช่น ไฟฟ้า, ระบบช่วยขับอัตโนมัติ (ADAS/Autonomous) และ Connected Mobility ที่ Valeo มีบทบาทสำคัญตามแนว path-breaking ของอุตสาหกรรม เขาเองเคยกล่าวว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มมูลค่าในทุกรถยนต์หลายเท่าตัว
ตลอดระยะเวลา 13 ปี ภายใต้การนำของเขา ทำให้ Valeo เติบโตจาก 7.5 พันล้านยูโร เป็น 1.9 หมื่นล้านในปี 2018 และจำนวนพนักงานก็เพิ่มจาก 45,000 คน เป็น 114,000 คนทั่วโลก ในปี 2022 และตัวเขาก็เปลี่ยนบทบาทจาก CEO เป็นประธานบอร์ด ผลงานของเขายืนยันแล้วว่าเป็นผลมาจากแนวคิดเชิงกลยุทธ์และบริหารแบบครบวงจร
เรื่องราวของ Jacques Aschenbroich ไม่เพียงสะท้อนความสำเร็จของคนคนหนึ่ง แต่เป็นบทเรียนของผู้นำในยุค Mobility Revolution การเปลี่ยนผ่านที่แท้จริงเริ่มที่วัฒนธรรมองค์กร การมี Mindset ที่พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง และการลงทุนในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง โดยเฉพาะสำหรับผู้ประกอบการและคนรุ่นใหม่ โดยมีสูตรสำเร็จคือ กลยุทธ์ + นวัตกรรม + ความยืดหยุ่น
เรียบเรียงโดย: THE INSIDER
Source
– https://www.just-auto.com/interview/2022-outlook-qa-with-valeos-ceo
– https://www.valeo.com/en/governance-evolution-appointment-of-christophe-perillat-as-valeo-chief-executive-officer/
– https://www.orange.com/en/group/governance/board-of-directors/jacques-aschenbroich?utm_source=chatgpt.com