ไทยเบฟกับการเติบโตแบบ ESG ภายใต้การนำของคุณฐาปน

คุณเชื่อหรือไม่ว่าแนวคิด “พอเพียง” จะเป็นส่วนหนึ่งของหัวใจของอาณาจักรเครื่องดื่มระดับหมื่นล้าน?
“est cola, OISHI Green Tea, น้ำดื่ม CRYTAL, TEAPOT รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกหลายแบรนด์”
คุณอาจจะรู้จักแบรนด์ที่กล่าวมาข้างต้น แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ คือชายหนุ่มวัยห้าสิบปี ผู้ที่เข้ามาสืบทอดอาณาจักรจากพ่อ พร้อมกับเขียนบทใหม่ให้กับธุรกิจไทยในเวทีโลก นั่นก็คือ คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี คนที่กล้าหันหลังให้กับแนวคิดธุรกิจเดิม โดยผสมผสาน “การเติบโต” กับ “ความยั่งยืน” ทำให้ไทยเบฟเติบโตจากระดับประเทศ ไปสู่ระดับภูมิภาค ผ่านแนวคิด กลยุทธ์ และวิสัยทัศน์ของเขา
คุณฐาปน เกิดในตระกูล “สิริวัฒนภักดี” ที่มีธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่เครื่องดื่ม อาหาร ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ จนไปถึงธุรกิจระดับภูมิภาค คุณพ่อของเขา (คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี) คือผู้สร้างอาณาจักร “ช้าง” และเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของไทย ทำให้เขาเติบโตมาในครอบครัวที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของการบริหารและกลยุทธ์ทางธุรกิจ นอกจากการเรียนรู้บทเรียนจากพ่อ เขายังไปเรียนต่อในระดับปริญญาตรีและโท ด้านการเงินและเศรษฐศาสตร์ จาก Boston University สหรัฐอเมริกา
เมื่อกลับมาจากสหรัฐอเมริกา คุณฐาปน เริ่มต้นในตำแหน่งระดับปฏิบัติการในบริษัทในเครือของไทยเบฟ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และค่อย ๆ ไต่เต้าสู่ตำแหน่งระดับผู้บริหาร จนสามารถขึ้นไปสู่ตำแหน่งสูงสุดของฝ่ายบริหาร หรือ CEO ของ ThaiBev ซึ่งในช่วงเวลานั้นเขามีอายุเพียงแค่ 34 ปี ซึ่งเป็นความท้าทายสำหรับเขาเป็นอย่างมาก ทั้งในแง่ของการบริหารองค์กรขนาดใหญ่ และต้อง “พิสูจน์ตัวตน” ว่าเขาไม่ได้เป็นแค่ลูก แต่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำ ซึ่งภายใต้การนำของเขา เขาเริ่มปรับโครงสร้างธุรกิจ ขยายเข้าสู่กลุ่มน้ำอัดลม น้ำดื่ม อาหาร และช่องทางจัดจำหน่ายแบบครบวงจร
หนึ่งในความกล้าหาญของคุณฐาปน คือแผน “Vision 2020: ASEAN Total Beverage Company” ที่มุ่งให้ไทยเบฟกลายเป็นผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มแบบครบวงจรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มด้วยการเข้าไปถือหุ้นใหญ่ใน Fraser & Neave (F&N) ประเทศสิงคโปร์ และยังลงทุนใน น Grand Royal Group ของเมียนมาร์ รวมถึง Saigon Beer Alcohol Beverage Corp. (SABECO) ของเวียดนาม การเข้าซื้อกิจการเหล่านี้ นอกจากการเพิ่มยอดขายและฐานลูกค้า ยังทำให้ไทยเบฟกลายเป็นที่รู้จักในระดับภูมิภาคในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี
นอกจากนี้คุณฐาปน ได้เปิดตัวกลยุทธ์ “Enabling Sustainable Growth” ที่เน้น ESG หรือ Environment, Social and Governance ที่เป็นหัวใจหลักของการดำเนินธุรกิจ โดยบริษัทได้รับการรับรองเข้าดัชนี Dow Jones Sustainability Index (DJSI) ทั้งระดับ Emerging Markets และ World Index ติดต่อกันหลายปี
ในอีกมุมมองหนึ่งของคุณฐาปน คือบทบาทของผู้สนับสนุนศิลปะและวัฒนธรรม ผ่านการก่อตั้ง “Bangkok Art Biennale” หรือเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ ที่ดึงดูดศิลปินชั้นนำจากทั่วโลกมาร่วมแสดงที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้เขายังร่วมสนับสนุนมูลนิธิ Photographic Arts Foundation ซึ่งเน้นเก็บรักษาภาพถ่ายประวัติศาสตร์ของสังคมไทย บทบาทเหล่านี้ทำให้เขากลายเป็นผู้นำธุรกิจเพียงไม่กี่คนที่สามารถเชื่อมโลกของธุรกิจ ศิลปะ และสังคม ไว้ในวิสัยทัศน์ได้อย่างกลมกลืน
นอกจากการบริหารไทยเบฟ คุณฐาปนยังมีบทบาทสำคัญในบอร์ดบริหารของบริษัทชั้นนำอีกหลายแห่ง เช่น Univentures, Amarin, SCG Chemicals, Fraser Property และ Siam Cement Group (SCG) โดยเฉพาะ SCG Chemicals ที่เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการอิสระ นอกจากนี้เขายังเป็นประธานในคณะกรรมการกำกับกลยุทธ์อีกหลายองค์กร ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ภาคธุรกิจมีต่อความคิดและวิสัยทัศน์ของเขา
จากผลงานของคุณฐาปน ที่ผ่านมา ส่งผลให้ในปี 2024 เขาได้รับรางวัลระดับประเทศอย่าง “CEO of the Year in Sustainability Impact Leadership” และ “CEO of the Year 2024” เป็นการยืนยันถึงผลงานและแนวคิดการบริหารของเขา ด้วยความสามารถในการนำพาองค์กรให้เติบโตพร้อมกับคุณค่าในระยะยาว และหลายฝ่ายยกย่องเขาว่า เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่สามารถนำหลัก “เศรษฐกิจพอเพียง” มาปรับใช้ในองค์กรได้จริง โดยไม่ละทิ้งเป้าหมาย
ในแง่ของตัวเลขทางการเงินในปีที่ผ่านมา ไทยเบฟมีรายได้รวม 340,289 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 35,270 ล้านบาท โดยมีแบรนด์หลัก ๆ ที่อยู่ภายใต้ไทยเบฟ ได้แก่ Chang, Archa, Oishi, Est, Mekhong และ SangSom นอกจากนี้ ยังได้เข้าไปถือหุ้นในบริษัทอย่าง F&N, Sermsuk และ SABECO ทำให้ไทยเบฟมีขนาดใหญ่อันดับต้น ๆ ของเอเชียในกลุ่มเครื่องดื่ม ด้วยทรัพย์สินรวมมากกว่า 527,590 ล้านบาท
เรื่องราวของคุณฐาปน เป็นตัวอย่างของผู้นำที่เปลี่ยนคำว่า “ธุรกิจครอบครัว” ให้กลายเป็นธุรกิจระดับภูมิภาคได้ ด้วยการผสมผสานความรู้ กลยุทธ์เชิงรุก และหลักคิดแบบเศรษฐกิจพอเพียง นอกจากการเติบโตในแง่ของรายได้ ยังเติบโตไปพร้อมกับสังคม ศิลปะ และสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้เรื่องราวของเขายังเป็นเครื่องเตือนใจว่า “การทำธุรกิจให้สำเร็จ อาจไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข” แต่คือการมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และกล้าทำในสิ่งที่แตกต่าง เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่า
เรียบเรียงโดย: THE INSIDER
Source
– https://www.thaibev.com/home
– https://www.weforum.org/people/thapana-sirivadhanabhakdi/
– https://youtu.be/NW3Vj4HGsKY?si=tIc4Zj23ZuvgGj-m