Yuedpao: จากเงิน 200 บาท สู่ธุรกิจแฟชั่นพันล้าน

จุดเริ่มต้นของชายคนหนึ่ง ที่ผ่านเรื่องราวและจุดเปลี่ยนต่าง ๆ มามากมาย จนกลายมาเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า ที่หากพูดถึงแล้ว น้อยคนที่จะไม่รู้จัก แต่หากย้อนกลับไปในวัยเด็กของเขา เขาเกิดมาในครอบครัวที่พ่อกับแม่ทำอาชีพค้าขาย
ด้วยความที่เขาเป็นเด็กทั่ว ๆ ไป เรียนไม่เก่ง ในกลุ่มเพื่อน ก็โดนแกล้งอยู่บ่อย ๆ นอกจากนั้น ครอบครัวก็ไม่มีเวลาให้มากพอ เมื่อถึงจุดหนึ่งของคำว่า วัยรุ่น ก็ต้องการสร้างตัวตน แต่ตัวเขาเองไม่มีจุดเด่นใด ๆ เลย จึงคิดว่า ต่อไปจะทำทุกอย่างให้เต็มที่ และจริงจังกับสิ่งที่ทำ
แต่ด้วยสังคม สิ่งแวดล้อม รวมไปถึงค่านิยม ในสถาบันที่เขาเรียนอยู่ ทำให้คำว่า ทำเต็มที่ในช่วงเวลานั้น กลับกลายเป็นการทำในสิ่งที่ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นการ ชกต่อย ยกแก๊งตีกัน เมื่อสิ่งเหล่านี้หล่อหลอมให้คำว่า “ชัยชนะ” เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่
ชีวิตของเขาในช่วงเวลานี้ เรียกได้ว่า เฉียดเข้าใกล้กับคำว่า “ตาย” ทั้งเคยโดนยิง ทั้งเกิดอุบัติเหตุจากความคึกคะนอง รวมไปถึงเกือบจมน้ำเสียชีวิต จากความประมาท ที่กล้ากระโดดลงไปในแม่น้ำ แม้กระแสน้ำจะเชี่ยวก็ตาม
ด้วยเหตุการณ์เฉียดตาย โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่โดนยิง ทำให้เขาเริ่มกลับมาคิดที่เริ่มจะรักชีวิตตัวเอง และมองย้อนกลับไปคิดถึงคนที่เลี้ยงดูเขามา พ่อกับแม่จะเป็นยังไง? ชีวิตใช้ชีวิตแบบนี้อนาคตจะเป็นยังไง? นอกจากนี้ก็มองเห็นถึงความลำบากที่แท้จริงของครอบครัว
เรียกได้ว่าช่วงชีวิตนั้นคือจุดที่ต่ำมาก ๆ หรือเกือบต่ำสุดของชีวิตเขา เนื่องจาก พ่อกับแม่ก็แยกทางกัน ปัญหาที่เขาก่อ แม่ก็ต้องไปกู้ยืมเงินมาจัดการ สร้างหนี้สินมากมาย ทำให้เขาตัดสินใจเริ่มเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองให้ดีขึ้น
เริ่มต้นจากการเปลี่ยนสถานศึกษาเพื่อหนีสังคมที่ไม่ดี แต่ที่บ้านไม่สามารถสนับสนุนค่าเรียนได้แล้ว แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่อยากจะเรียนจริง ๆ จึงมองหาหนทางที่จะทำให้ตัวเขาเองมีรายได้ เพื่อจ่ายค่าเทอม รวมไปถึงใช้จ่ายในชีวิตประจำวันด้วย
ด้วยความบังเอิญ ว่าบริเวณมหาลัย มีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของ ด้วยความที่มีเลือดของพ่อค้าแม่ค้าติดตัวมา และเคยมีประสบการณ์ค้าขายในวัยเด็ก จึงคิดที่จะขายของ โดยที่ยังไม่มีความคิดว่าจะตัดสินใจจะขายสินค้าอะไร จึงไปที่ตลาดโรงเกลือ เพื่อหาสินค้ามาขาย ด้วยเงินเก็บที่มีอยู่ไม่มาก จึงเลือกซื้อกางเกงมือสองมาขาย
แม้วันแรกจะมียอดขายแค่ 200 บาท แต่รู้สึกสนุก และเสียงข้างในใจบอกว่า “นี่แหละ ใช่เลย” จากนั้นเริ่มเรียนรู้และสังเกตจากร้านใกล้เคียงว่า องค์ประกอบร้านควรมีอะไรบ้าง วิธีการวางขายสินค้าวางยังไง ก็เริ่มทำตาม ยอดขายก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นมาจนถึงหลักพัน จากนั้นก็เริ่มไปขายตามสถานที่ต่าง ๆ มากขึ้น
เมื่อยอดขายเพิ่มขึ้น ก็ตัดสินใจเปิดร้านเป็นของตัวเอง อยู่แถวจตุจักร ทำให้ยอดขายขึ้นมาถึงหลักหมื่น จึงมีความฝันที่ต้องการไปให้ไกลกว่าการที่จะเป็นแค่พ่อค้าไปรับของมาขาย ซึ่งหนีไม่พ้นคำว่า ต้องมีแบรนด์เป็นของตัวเอง
ด้วยความทะเยอทะยานอยากมีแบรนด์เป็นของตัวเอง จึงนำเงินเก็บที่มี ไปสั่งผลิตสินค้าใหม่ แต่ด้วยความไม่มีประสบการณ์ ไม่สามารถควบคุมต้นทุนได้ และขายราคาแพงเกินไป เกือบทุกให้สูญเงินเกือบ 5 แสน แต่เพื่อให้สินค้าสามารถขายได้ จึงลดราคาให้ต่ำลงมา
เมื่อราคาสินค้าต้องต่ำลงมา ต้นทุนก็จำเป็นต้องปรับตาม ก็เริ่มหาวิธีการที่จะทำให้ต้นทุนต่ำลงมาให้ได้ ทั้งค่าตัดเย็บ และค่าผ้าที่จะนำไปตัด ซึ่งพบว่า ในโรงงานที่รับผลิตเสื้อผ้า จะมีผ้าที่เหลือจากการสั่งตัดของลูกค้ารายใหญ่ ๆ และนำมาขายครึ่งราคา จึงตัดสินใจ ทำให้เขาได้ผ้าที่ต้นทุนต่ำลง
และในกระบวนการออกแบบลวดลาย ก็ทำดีไซน์ให้สวยตามความชอบของตัวเขาเอง เมื่อนำมาวางขาย พบว่าลูกค้าให้ความสนใจ เพราะมีความแตกต่างจากร้านอื่น ๆ เมื่อได้รับความสนใจ ก็ตัดสินใจขยายสาขาเป็น 5 สาขา ในบริเวณตลาดจตุจักร
เมื่อรายได้จากการขายสินค้าชนิดเดียวชนเพดาน ไม่สามารถเพิ่มได้อีก จึงมองหาแนวทางที่จะผลิตสินค้าแบบอื่นมาขาย จึงตัดสินใจทำเสื้อยืดมาขาย โดยเปิดร้านอยู่ข้าง ๆ กันกับร้านเดิม แต่ไม่ว่าจะเป็นสินค้าชนิดใด ก็ยังเป็นเพียงแค่การขายสินค้า ยังไม่เข้าใกล้กับคำว่า “แบรนด์” จึงตัดสินใจไปลงเรียนคอร์สต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อหาความรู้
จากการลงเรียนคอร์ส ทำให้เห็นว่าโลกนี้มันกว้างกว่าที่คิด โดยเฉพาะคอร์ส XMBA ที่ทำให้ได้ประสบการณ์ทั้งสำเร็จและล้มเหลว จากผู้ประกอบการและนักธุรกิจหลายบริษัท นอกจากนั้นยังได้ความรู้ แนวคิด ต่าง ๆ มากมาย ทำให้หล่อหลอมความเป็นผู้ประกอบการมากขึ้น
หลังจากค่อย ๆ เรียนรู้และนำมาปรับใช้กับร้านที่เปิดขายอยู่ จึงตัดสินใจทำแบรนด์เป็นของตัวเองอย่างจริงจัง โดยการ rebranding สินค้าทุกอย่างที่ผลิตมาขาย กลายมาเป็นแบรนด์ยืดเปล่า (Yuedpao) ที่ก่อตั้งโดย คุณตอน – ทนงค์ศักดิ์ แซ่เอี้ยว ซึ่งหลักจากมีแบรนด์ ปรับราคา มีช่องทางสื่อสารที่ัชัดเจน ทำให้ยอดขายหลังจากนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจขยายสาขาออกไปจากตลาดจตุจักร มาจากคำถามของอาจารย์ในคลาสเรียนว่า ที่ตลาดก็ขยายไปหลายสาขา จนเรียกได้ว่าเป็นเจ้าพ่อตลาดจตุจักรแล้ว อนาคตจะไปยังไงต่อ? จึงตัดสินใจขยายสาขาไปที่ ยูเนี่ยนมอลล์ ก็ทำให้ขายดีมากขึ้น โดยมียอดขายหลักแสนต่อเดือน
เมื่อแบรนด์เริ่มได้รับความสนใจและมียอดขายที่ดี เซ็นทรัลจึงมาเชิญไปเปิดร้านที่ เซ็นทรัลลาดพร้าว แต่ไปเป็นไปอย่างที่คิด มียอดขายติดลบ เนื่องจากการขายสินค้าในศูนย์การค้า แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการขายสินค้าอยู่ข้างนอก จึงหาหนทางเพื่อแก้ไขปัญหานี้ จึงตัดสินใจปรับปรุงหน้าร้าน ทำการตลาดเพิ่มเติม และเริ่มขายผ่านออนไลน์ รวมไปถึงหาพรีเซนเตอร์ โดยดึงคนให้เข้าไปที่หน้าร้านที่เซ็นทรัลให้มากที่สุด ทำให้ยอดเริ่มกลับมา
หลังจากนั้นจึงขยายสาขาในศูนย์การค้าเพิ่มมากขึ้น เมื่อมีสาขาเพิ่มมากขึ้น ไม่สามารถดูแลแต่ละสาขาได้อย่างทั่วถึง จึงตัดสินใจทำคู่มือในการบริหารจัดการร้าน ให้กับพนักงานในแต่ละสาขา ตั้งแต่การเปิดปิดร้าน ไปจนถึงแนวทางแก้ไขปัญหาหน้าร้าน
จากวันแรกของนักศึกษาที่หาสินค้ามาขายเพื่อหาค่าเทอมและเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จนกลายมาเป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่น้อยคนจะไม่รู้จัก โดยปัจจุบัน ยืดเปล่า มีทั้งหมด 62 สาขา พนักงานมากกว่า 400 ชีวิต และสร้างยอดขายไปถึงหลักพันล้านเรียบร้อยแล้ว
เรียบเรียงโดย: THE INSIDER
Source
– https://youtu.be/MeBeN-Y7VXQ?si=1_1IXvtunzfMT-q0
– https://youtu.be/6018aj6PGSA?si=6nKoJgf0bAww6GOt
– https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1141104#google_vignette