BEARHOUSE กับบทเรียนธุรกิจจากความล้มเหลวสู่ความสำเร็จ

ในการสร้างธุรกิจ หลายครั้งที่เราต้องเผชิญกับความท้าทายและอุปสรรคจนรู้สึกท้อ แต่การเรียนรู้จากความล้มเหลว ก็สามารถพาเราไปสู่ความสำเร็จได้ เช่นเดียวกับสองผู้ก่อตั้งแบรนด์ BEARHOUSE และ SUNSU ที่ใช้ความหลงใหล และความกล้าในการทำสิ่งใหม่ ๆ แม้จะต้องผ่านการลองผิดลองถูกมากมาย แต่ก็สามารถทำให้ BEARHOUSE กลายเป็นแบรนด์ร้านชานมที่มีมากกว่า 40 สาขา และกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ชีวิตของคุณซารต์-ปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช และคุณกานต์-อรรถกร รัตนารมย์ เริ่มต้นในฐานะเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย ทั้งสองคนได้พบกันครั้งแรกในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสิ่งที่ทั้งู๋เรียนมา ก็เป็นพื้นฐานที่สามารถนำมาปรับใช้ในการทำธุรกิจได้ในภายหลัง ความมุ่งมั่นและการเรียนรู้ที่ไม่หยุดยั้ง เป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จที่พวกเขาได้สร้างมันขึ้นมา

คุณซารต์และคุณกานต์ ได้เรียนรู้ว่าการประสบความสำเร็จ มาจากการเรียนรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต การทำงานที่ไม่ตรงสายอาชีพ เช่น การเป็นตัวแทนขายประกันของคุณซารต์ หรือการเป็น YouTuber ของคุณกานต์ ทำให้ทั้งสองคนเข้าใจถึงความท้าทายในการสร้างธุรกิจของตัวเอง ทั้งสองคนเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากการทำงานจริง คิดนอกกรอบ และการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการทำธุรกิจ

หลังจากเรียนจบมา คุณกานต์ ตัดสินใจที่จะเป็น Youtuber เนื่องจากในช่วงเวลานั้น เป็นอาชีพที่คนไม่ค่อยรู้จัก แต่มันสามารถสร้างรายได้ให้ได้มากกว่าที่คาดคิด และกลายเป็นที่มาที่ทำให้คุณซารต์ตัดสินใจมาเป็น Youtuber เช่นเดียวกัน โดยได้คุณกานต์เป็นคนดูแลทุกอย่างให้ ด้วยความพยายามและการเรียนรู้จากความผิดพลาด ทำให้ทั้งสองคนได้พัฒนาช่องตัวเอง ทำให้มีคนติดตามหลักล้านคน แต่เมื่อคุณกานต์ต้องทำงานในหลังบ้านเพียงคนเดียว ทำให้รับมือกับการดูแลสองช่องไม่ไหว จึงตัดสินใจรวมกันทำให้เหลือเพียงช่องเดียว นั่นคือ “Bearhug” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการเปิดประตูสู่ธุรกิจใหม่ ๆ ที่เต็มไปด้วยโอกาส

ในระหว่างที่การทำ YouTube พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะทดลองทำธุรกิจใหม่ โดยเริ่มจากความหลงใหลในชานมไข่มุกที่มีรสชาติแตกต่างจากในตลาดทั่วไป หลังจากที่ไปเที่ยวไต้หวัน คุณซารต์ได้ชิมชานมไข่มุกที่นั่นแล้วชอบในรสชาติ จึงมีความคิดที่จะนำแบรนด์ชานมมาขายในประเทศไทย แต่เส้นทางของการซื้อแฟรนไชส์กลับเต็มไปด้วยอุปสรรคและความท้าทาย โดยเฉพาะการที่ต้องขายด้วยราคาสูง เนื่องจากต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศและอื่น ๆ

แม้จะมีความท้าทายต่าง ๆ แต่ความกล้าในการทำสิ่งใหม่ ๆ ก็ทำให้ทั้งคู่ไม่ยอมแพ้ หลังจากพยายามอยู่หลายครั้งในที่สุดก็เปิดร้าน “Bearhouse” และพบว่าการเริ่มต้นธุรกิจไม่ได้มีอะไรโรยด้วยกลีบกุหลาบ ทั้งคู่ต้องเผชิญกับคำวิจารณ์จากลูกค้าในวันแรก ๆ จนรู้สึกท้อ แต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้และพยายามปรับปรุงรสชาติและคุณภาพจนได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและได้รับความนิยมในที่สุด

การเรียนรู้จากความคิดเห็นของลูกค้าและปรับปรุงผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องช่วยให้ร้าน Bearhouse สามารถสร้างชื่อเสียงและขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้ยึดติดกับสิ่งที่เคยทำมา แต่เปิดใจรับฟังและปรับตัวไปตามความต้องการของตลาด จนเป็นที่มาของสาขาที่ 2 แต่ก็ต้องเจอกับช่วงวิกฤตโควิด-19 ซึ่งพวกเขาก็สามารถผ่านช่วงเวลานั้นไปได้ ด้วยการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและการคำนึงถึงคุณภาพของสินค้าเสมอ

หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้แบรนด์ Bearhouse เติบโตอย่างรวดเร็วคือการมีกลยุทธ์ในการควบคุมคุณภาพและการจัดการอย่างมืออาชีพ พวกเขาตัดสินใจเปิดครัวกลางตั้งแต่สาขาแรก เพื่อควบคุมคุณภาพของชานมอย่างเข้มงวด ซึ่งทำให้ไม่เกิดข้อผิดพลาดในการผลิต และลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่ารสชาติที่พวกเขาได้ดื่มจะเหมือนกันในทุกสาขา การใช้ประโยชน์จากการควบคุมคุณภาพอย่างมีระบบหนึ่งในกุญแจที่สำคัญในการขยายธุรกิจ

แม้ว่าทุกอย่างจะดูดีในตอนนี้ แต่การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีปัญหาใหม่ ๆ ให้ต้องเผชิญ หนึ่งในบทเรียนสำคัญที่พวกเขาได้เรียนรู้คือการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการมองหาโอกาสใหม่ ๆ ในตลาด ทั้งในส่วนของการขยายธุรกิจและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่น SUNSU ซึ่งเป็นการขยายตัวที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนในยุคปัจจุบัน แม้จะมีปัญหาบางอย่างในกระบวนการผลิต แต่ความกล้าที่จะทดลองและปรับตัวทำให้พวกเขาไม่หยุดยั้ง

เมื่อมองย้อนกลับไป ทั้งคุณซารต์และคุณกานต์ไม่เคยหยุดฝันและไม่เคยยอมแพ้ในการเผชิญกับอุปสรรค แม้จะต้องผ่านการลองผิดลองถูกหลายครั้งก็ตาม ความพยายามและความกล้าที่จะทำสิ่งใหม่ ๆ นำพวกเขามาถึงจุดที่วันนี้พวกเขามีร้านชานมไข่มุก Bearhouse ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และตอนนี้พวกเขามีแผนที่จะขยายธุรกิจให้ยิ่งใหญ่ไปกว่านี้ จุดเริ่มต้นจากความฝันในวันนั้น ได้กลายเป็นการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง

[Key Takeaway]

• ความกล้าในการลองสิ่งใหม่ ๆ คือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ
• ควบคุมคุณภาพและการผลิตอย่างมืออาชีพเป็นกุญแจในการขยายธุรกิจ
• การสร้างแบรนด์ที่ยั่งยืนต้องมาจากการฟังความคิดเห็นลูกค้าและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

แล้วคุณล่ะ ถ้าต้องเลือกที่จะเริ่มต้นธุรกิจใหม่ จะเริ่มต้นจากความหลงใหลของตัวเอง หรืตามโอกาสในตลาด?

เรียบเรียงโดย: THE INSIDER
Source
– หนังสือจาก 0 สู่ 100 ล้าน โดย พงศธร ธนบดีภัทร
– https://youtu.be/nTzx0GAomdI?si=KuT0bf15js3jgyU-