วิธีปรับตัวธุรกิจครอบครัว “เด็กสมบูรณ์” สู่ยุคดิจิทัล

0
ธุรกิจครอบครัว หยั่นหว่อหยุ่น เด็กสมบูรณ์ รีแบรนด์ซอส การตลาดยุคใหม่ family business yan wo yun dek somboon sauce brand rebranding modern marketing


การรักษาความสำเร็จของธุรกิจที่สืบทอดมาหลายรุ่นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในยุคที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ยิ่งมีความท้าทายมากขึ้น แต่ “หยั่น หว่อ หยุ่น” หรือ “เด็กสมบูรณ์” แบรนด์ซอสปรุงรสยอดนิยมของคนไทย ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การปรับตัวตามยุคสมัยสามารถสร้างความสำเร็จใหม่ ๆ ได้ไม่ยาก ด้วยการนำแนวคิดใหม่ ๆ มาใช้ร่วมกับความแข็งแกร่งของพื้นฐานที่มีอยู่เดิม


“หยั่น หว่อ หยุ่น” ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2525 โดยนายวิเชียร ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันมีอายุเกือบ 80 ปีแล้ว ความสำเร็จของแบรนด์นี้ไม่ได้มาจากการตั้งใจเพียงแค่การผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ แต่ยังมาจากการที่ทายาทในแต่ละรุ่นได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของรุ่นก่อนหน้าและนำมันมาใช้ในการพัฒนาและปรับตัวตามสภาพตลาดที่เปลี่ยนไป


คุณท็อป-วสุพล ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ ในฐานะทายาทรุ่นที่ 3 เริ่มต้นจากการค่อย ๆ ซึมซับวิธีการทำงานจากคุณปู่และคุณพ่อตั้งแต่เด็ก ด้วยการทำงานเบื้องต้น เช่น การติดฉลากและนับสต็อกสินค้า ทำให้เขามีความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับกระบวนการผลิตและธุรกิจ ตั้งแต่วัยเด็กคุณท็อปเริ่มรู้จักกับความสำคัญของการเรียนรู้และพัฒนาในทุกๆ กระบวนการ


ในช่วงแรกของการเข้ามาช่วยครอบครัวในการดูแลธุรกิจ เขาต้องเผชิญกับความกลัว ที่ว่าจะไม่สามารถทำให้บริษัทเติบโตได้อย่างที่รุ่นก่อนหน้าทำไว้ แต่เขาก็ใช้ความกลัวนั้นเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เขามุ่งมั่นที่จะปรับปรุงและพัฒนาแบรนด์ให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการศึกษาข้อมูลจากการวิจัยและการวิเคราะห์ตลาด เพื่อที่จะเข้าใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น


เมื่อคุณท็อปพบว่าแบรนด์ “เด็กสมบูรณ์” ไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ได้มากเท่าที่ควร เนื่องจากคนส่วนใหญ่ยังคงจดจำแบรนด์ได้จากภาพจำที่มีมาอย่างยาวนาน ดังนั้นเขาจึงเริ่มทำการรีแบรนด์ด้วยการใช้พรีเซนเตอร์ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ เช่น การเลือก “น้องพีร์ น้องธีร์” ซึ่งเป็นเด็กฝาแฝด ที่จะสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นมนุษย์มากขึ้นให้กับแบรนด์ พร้อมทั้งการเปลี่ยนแปลงสลากสินค้าของ “เด็กสมบูรณ์” เพื่อให้สามารถสื่อสารได้กับผู้บริโภคมากขึ้น


ในการเปลี่ยนแปลง “เด็กสมบูรณ์” ของคุณท็อป เริ่มต้นจากการใช้เครื่องมือออนไลน์อย่าง Facebook, Instagram และ TikTok ซึ่งเป็นช่องทางที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่ในการสื่อสารด้านออนไลน์ แต่ยังรวมถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในด้านการออกแบบโลโก้และผลิตภัณฑ์ที่มีความทันสมัยมากขึ้น ซึ่งช่วยสร้างการรับรู้และความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์กับลูกค้ากลุ่มใหม่


แต่การเปลี่ยนแปลงก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจาก แม้ว่าจะมีคนรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยความกระตือรืนร้นและเทคโนโลยีเข้ามาทำงาน แต่เขาก็ต้องหาทางปรับตัวเพื่อสื่อสารและทำงานร่วมกับคนรุ่นเก่าที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ โดยการทำให้ทุกคนเข้าใจถึงเป้าหมายเดียวกันและมุ่งสู่การเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ต่อแบรนด์และองค์กร


ดังนั้น การปรับตัวในธุรกิจครอบครัวไม่ใช่แค่การนำวิธีการใหม่ ๆ มาใช้เท่านั้น แต่ยังต้องรักษาค่านิยมและคุณค่าที่ก่อตั้งแบรนด์ตั้งแต่แรก การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นใน “หยั่น หว่อ หยุ่น” ภายใต้การเปลี่ยนแปลงของคุณท็อป เป็นการผสมผสานระหว่างความเชื่อมั่นในรากฐานเดิมกับการใช้เทคโนโลยีและการตลาดในยุคใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน


เรียบเรียงโดย: THE INSIDER
Source
https://youtu.be/hdxq0DQMv28?si=IfBHocJCaZWoCZbZ


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *