เจ้เล้งดอนเมือง สร้างอาณาจักรค้าปลีกด้วยเงินหลักพัน

0
เจ้เล้ง นักธุรกิจหญิง ร้านเจ้เล้งดอนเมือง เงินทุนหลักพัน ธุรกิจความงาม สู้ชีวิตสำเร็จ Jaoleng businesswoman Don Mueang store Starting capital Beauty products Successful entrepreneur


คุณเคยคิดไหมว่าจากเงิน 1,200 บาท จะเปลี่ยนชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งได้มากแค่ไหน? ยิ่งไปกว่านั้น จากเงินหลักพันบ้านเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจหลักพันล้านล่ะ? ซึ่งเธอคนนี้คือ “เจ้เล้ง” หรือ คุณอารยา ลาภชีวะสิทธิฉัตร หญิงแกร่งที่ไม่ได้เป็นเพียงนักสู้ แต่เป็นนักธุรกิจที่เต็มไปด้วยแนวคิดและวิสัยทัศน์ เส้นทางชีวิตของเธอ ต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรค เพื่อเป้าหมายที่ชัดเจนด้วยประโยคเดียวคือ “ฉันต้องรวย”


เจ้เล้งเกิดในครอบครัวชาวจีนที่มีฐานะยากจน แม้ว่าครอบครัวจะไม่ได้มีเงินมากมาย แต่เธอได้รับการเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีและมีแบบอย่างของความขยันจากแม่และพ่อของเธอ แต่ด้วยความฝันที่อยากหลุดพ้นจากความยากจนและไม่อยากให้ครอบครัวต้องลำบาก เธอในตอนอายุเพียง 14 จึงตัดสินใจของเงินแม่เป็นเงินทุนจำนวน 1,200 บาท ไปซื้อสินค้าจากตลาดโบ๊เบ๊และสำเพ็งมาขาย ซึ่งกลายเป็ดจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง


จากแผงลอยธรรมดา ๆ เจ้เล้งเรียนรู้จากประสบการณ์ สังเกตพฤติกรรมผู้บริโภค และพยายามทำความเข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้ง ทำให้เธอสามารถเก็บเงินล้านแรกได้ตอนอายุ 18 ปี และเริ่มขยายธุรกิจจากร้านขายเสื้อผ้า มาสู่สินค้าสกินแคร์และเครื่องสำอาง โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานสายการบิน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ เนื่องจากร้านของเธออยู่บริเวณใกล้ ๆ สนามบินดอนเมือง ด้วยความกล้าและความรู้ที่สะสมจากการอ่านหนังสือโดยเฉพาะนิตยการของต่างประเทศ ที่เธอมีข้อได้เปรียบที่สามารถอ่านภาษาอังกฤษได้ ซึ่งเป็นคนส่วนน้อยในช่วงเวลานั้น เธอจึงสามารถคัดเลือกสินค้าได้ด้วยตัวเอง วิเคราะห์ตลาดได้ด้วยตัวเอง จนกลายเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ยาวไกล


คาถาความรวยของเจ้ เป็นหลักการง่าย ๆ แต่ชัดเจน ด้วยคำว่า “ไม่โลภ” โดยเธอเชื่อว่า การรู้จักประมาณตน ไม่เข้าสังคมเกินความจำเป็นและไม่ได้มีชีวิตเพื่ออวดใคร คือหัวใจของความมั่งคั่งทางการเงินของเธอ และยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงการทำธุรกิจ 30 ปีแรก เธอนำเงินกำไรที่ได้หมุนเวียนกลับเข้าไปในธุรกิจ เพื่อทำให้ธุรกิจเติบโต จนสร้างเป็นอาณาจักร “เจ้เล้งดอนเมือง” ที่ใคร ๆ ก็รู้จัก รวมไปถึงเธอไม่เคยกู้เงินหรือมีหนี้สิน


แต่เธอก็ยอมรับว่า ช่วงที่ทำให้คนรู้จักเธอ เป็นช่วงที่เธอถูกตราหน้าว่าเป็น “เจ้าแม่ของหนีภาษี” แต่ด้วยความไม่รู้ของเธอเอง สุดท้ายเธอก็ทำให้ทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเรียนรู้จากข้อผิดพลาด จนสามารถนำเข้าสินค้าด้วยตัวเธอเอง ไม่ต้องพึ่งพาคนกลาง และเปลี่ยนภาพลักษณ์จากแม่ค้าธรรมดา สู่ CEO ของ เอแอนด์เจ บิวตี้โปรดักส์ จำกัด ที่มีรายได้ปีละหลายร้อยล้านบาท มีสินค้าหลากหลายตั้งแต่อาหาร เครื่องดื่ม ขนม สินค้าจากต่างประเทศ เครื่องสำอาง น้ำหอม และอื่น ๆ จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของร้านเจ้เล้งที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้


นอกจากนี้เจ้เล้งไม่หยุดที่จะพัฒนาเมื่อเทรนด์ของการขายของออนไลน์มาถึง เธอก็พาตัวเองเข้าสู่โลกออนไลน์ เปิดร้านค้าในหลายแพลตฟอร์ม ตั้งแต่ Facebook, IG, YouTube รวมไปถึง TikTok และยังเป็น beauty blogger ด้วยตัวเอง เพราะเธอมองว่า ตัวเธอเองรู้จักสินค้าและลูกค้าดีกว่าใคร และใช้ตัวเองในการทำการตลาด ผ่านหลักการ CEO Branding อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้ได้ในยุคปัจจุบัน


นอกจากธุรกิจค้าปลีก เจ้เล้งไม่หยุดเพียงเท่านี้ เธอยังลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในการทำอพาร์ทเม้นท์มากกว่าพันห้อง และซื้อที่ดินในการทำสวนผลไม้และบ้านพักคนชรา ที่เธอตั้งใจจะสร้างขึ้นสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่มีครอบครัว ด้วยความคิดที่ว่า “ถ้าฉันแก่ ฉันอยากมีเพื่อไปอยู่ด้วย” ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า เจ้เล้งมีความคิดและวิสัยทัศน์ถึงอนาคตเสมอ โดยไม่ใช่คิดแค่การสร้างรายได้ แต่เป็นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งแต่ตนเองและสังคม


แม้ตลอดระยะการทำธุรกิจของเจ้เล้ง เธอจะต้องเจอกับวิกฤตใหญ่ ๆ เหมือนกับหลาย ๆ ธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นช่วงต้มยำกุ้ง หรือ โควิด-19 ด้วยความไม่ยอมแพ้ เธอสามารถพาธุรกิจผ่านพ้นวิกฤตมาได้ ด้วยการบริหารเงินอย่างมีวินัย และการปรับตัวอย่างรวดเร็ว โดยใช้แนวคิดที่เธอทำมาโดยตลอดคือ การไม่ขาดทุนสำหรับกว่าการทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ เพราะแม้ว่าเธออยากรวย แต่ไม่ได้อยากรวยล้นฟ้า แต่รวยหรือมั่งคั่งแบบที่เธอสามารถดูแลตัวเองและครอบครัวได้อย่างมีความสุข และไม่ต้องพึ่งพาใครในยามแก่ชรา


สุดท้าย เรื่องราวของเจ้เล้ง ไม่ได้เป็นเพียงกรณีศึกษาของการทำธุรกิจ แต่เป็นมากถึงบทเรียนชีวิตของคนที่เริ่มต้นจากเงินเพียงหลักพัน แต่ไม่หยุดเดิน แม้โลกจะเปลี่ยนแปลงไปเร็วเพียงใด เธอก็พร้อมที่จะปรับตัว เรียนรู้ และเดินหน้าต่อไปอยู่เสมอ จนสามารถทำให้เงินหลักพัน เป็นอาณาจักรพันล้านได้ และคำแนะนำสุดท้ายสำหรับทุก ๆ คนจากเจ้เล้งก็คือ “ก่อนจะหวังพึ่งใคร ให้พึ่งตัวเองให้ได้ก่อน” เพราะสุดท้ายแล้ว ความมั่นคงที่แท้จริง ไม่ได้เป็นเพียงแค่เงินในบัญชี แต่คือหัวใจที่เข้มแข็งและใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย

เรียบเรียงโดย: THE INSIDER
Source
– https://www.ranjaeleng.com/about-us
– https://www.youtube.com/watch?v=3Wt0-rtcLvs
– https://www.thepeople.co/business/leadership/52023

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *