Warrix แบรนด์กีฬาไทยระดับโลกด้วยนวัตกรรม
คุณเคยตั้งคำถามกับตัวเองหรือไม่ ถ้าวันหนึ่งชีวิตคุณต้องพังทลายลง คุณจะมีแรงใจมากพอที่จะลุกขึ้นมาอีกครั้งได้หรือไม่? เรื่องราวของคุณฮิม-วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล คือบทพิสูจน์ของความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ เมื่อวิกฤตชีวิตในวัยเด็ก เป็นสิ่งที่ผลักดันให้เขา เข้าสู่เส้นทางการสร้างแบรนด์สินค้ากีฬา ที่ก้าวไกลระดับโลก
จุดเริ่มต้นของคุณฮิม เกิดขึ้นในวันที่ครอบครัวต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงิน จนต้องออกจากบ้านที่เคยอยู่อาศัย ตั้งแต่อายุได้ 14 ปี จากชีวิตที่เคยมั่นคงกลับพังพลายลงเพียงชั่วข้ามคืน สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เป็นแรงผลักดันที่เขาไม่มีวันลืม เขาตั้งคำมั่นสัญญากับตัวเองไว้ว่า “ก่อนอายุ 30 ปี จะต้องสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าที่พ่อเคยมี” และใช้คำมั่นสัญญานี้เป็นแสงสว่างนำทางของชีวิต
หลังจากเรียนจบ คุณฮิมเริ่มต้นทำงานในบริษัทเสื้อผ้ากีฬา เพื่อเก็บเกี่ยวความรู้ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การออกแบบ การผลิต ไปจนถึงการทำการตลาด ทำให้ได้รับประสบการณ์มากมาย จนหล่อหลอมเป็นทักษะ และปลูกฝังความเข้าใจในธุรกิจเชิงลึก ทั้งด้านคุณภาพสินค้า การบริหารต้นทุน และการจัดการกระแสเงินสด (Cash Cycle) ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญต่อการก้าวสู่โลกของธุรกิจในอนาคต
เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ก่อนอายุ 30 ปี คุณฮิมตัดสินใจครั้งสำคัญคือการลาออกจากงานประจำ เพื่อเริ่มต้นทำธุรกิจเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง แม้หลาย ๆ คนจะมองว่าเป็นการเริ่มต้นที่เสี่ยง แต่สำหรับเขา ถือเป็นก้าวแรกในการสร้างความฝันให้กลายเป็นจริง ภายใต้แบรนด์ที่ผลิตชุดยูนิฟอร์มสำหรับบริษัทและโรงเรียน
หลังจากวางรากฐานธุรกิจจนมั่นคง คุณฮิมก็ไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น เขามองหาโอกาสใหม่ในการสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า จึงตัดสินใจก่อตั้งแบรนด์ “Warrix” โดยมาจากคำว่า Warrior ซึ่งสะท้อนถึงจิตวิญญาณนักสู่ในตัวของเขา โดยการก่อตั้งแบรนด์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะพลิกโฉมวงการเสื้อผ้ากีฬาของไทยและสร้างสินค้าคุณภาพระดับโลกด้วยจิตวิญญาณแห่งนักสู้
จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของแบรนด์ Warrix คือการตัดสินใจเข้าประมูลสิทธิ์การผลิตและจำหน่ายเสื้อฟุตบอลทีมชาติไทย ด้วยมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท แม้จะมีความเสี่ยงสูง แต่คุณฮิมมองว่านี่คือโอกาสสำคัญในการพลิกตลาดเสื้อบอลไทย ที่เต็มไปด้วยสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ด้วยกลยุทธ์การแบ่งเกรดสินค้าออกเป็น 3 ระดับ (Player Grade, Standard Grade, Fan Grade) ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มแฟนบอลได้ทุกกลุ่ม และแก้ไขปัญหาเสื้อปลอมได้อย่างชาญฉลาด
ไม่เพียงแค่พัฒนาคุณภาพสินค้า แต่ยังสร้างเอกลักษณ์ด้วยการออกแบบเสื้อเชียร์บอลทีมชาติไทยในรูปแบบเสื้อโปโลแทนเสื้อคอกลมแบบเดิม เพิ่มโอกาสในการใช้งานได้หลากหลายทั้งในสนามกีฬาและชีวิตประจำวัน เสื้อโปโลนี้ได้กลายเป็น Hero Product ที่โดดเด่นและสร้างยอดขายถล่มทลายในเวลาต่อมา ตอกย้ำความสำเร็จของกลยุทธ์ที่คิดจากใจของแฟนกีฬาอย่างแท้จริง
สำหรับคุณฮิม การทำธุรกิจไม่เพียงแค่การสร้างรายได้ แต่เป็นการสร้างคุณค่า เขาเชื่อว่าธุรกิจที่ยั่งยืน ต้องสร้างผลกระทบเชิ่งบวกให้กับสังคมและผู้คนรอบข้าง Warrix จึงไม่เพียงแค่ขายสินค้า แต่ยังปลูกฝังวัฒนธรรมการออกกำลังกายและส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับคนไทย ผ่านทุกผลิตภัณฑ์ที่สร้างแรงบันดาลใจได้จริง
ในตลาดที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน คุณฮิมยังยึดหลักการ “Friendly Competitor” หรือการแข่งขันในเชิงบวก เขาเชื่อว่าคู่แข่งที่ดีจะช่วยหลักดันให้ธุรกิจเติบโตและพัฒนายิ่งขึ้น และยังเปิดโอกาสให้ผู้ค้าสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์หลายราย เปลี่ยนมาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ Warrix แทนการมองว่าคนเหล่านั้นเป็นศัตรู นี่คือวิธีการเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตรอย่างชาญฉลาด
จากเด็กชายวัย 14 ปีที่สูญเสียบ้าน สู่เจ้าของแบรนด์กีฬาไทย ที่ก้าวไปไกลระดับโลก Warrix คือผลลัพธ์ของความเชื่อที่แน่วแน่และการลงมือทำอย่างไม่ยอมแพ้ เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ทุกย่างก้าวล้วนเต็มไปด้วยพลังแห่ง “คำสัญญา” ที่เขาให้ไว้กับตัวเอง และพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เมื่อเรามุ่งมั่นและลงมือทำจริง ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
[Key Takeaway]
- วิกฤตคือจุดเริ่มต้นของโอกาส: แม้ชีวิตจะล้มเหลวในวัยเด็ก แต่คำสัญญากับตัวเองทำให้คุณฮิมลุกขึ้นมาได้
- ลงมือทำสำคัญกว่าความสมบูรณ์แบบ: คุณฮิมไม่รอให้พร้อมที่สุด แต่เริ่มจากสิ่งที่มีและเรียนรู้จากหน้างานจริง
- มองคู่แข่งเป็นพันธมิตร: คุณฮิมเปลี่ยนผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ให้กลายมาเป็นคู่ค้าทางธุรกิจ ด้วยแนวคิดที่เปิดกว้าง
แล้วคุณหล่ะ มีคำมั่นสัญญาอะไรกับตัวเอง ที่สามารถใช้เป็นแรงผลักดันได้แบบคุณฮิมหรือไม่?
เรียบเรียงโดย: THE INSIDER
Source
– หนังสือ จาก 0 สู่ 100 ล้าน โดย พงศธร ธนบดีภัทร
– https://youtu.be/7T0KIOzE3QU?si=kxwAwDL8r9kUMysQ
